Muse Mag
Muse Forward : บันเทิงเริงไทย
Muse Mag
12 ม.ค. 61 3K
Museum Siam

ผู้เขียน : Administrator

บันเทิงเริงไทย

 

คำคมโดนไทย

            “ความเป็นไทยในความรู้สึกของคนสมัยใหม่ไม่ได้อยู่ที่ชื่อไทย การใช้ของไทย หรือการแต่งกายแบบไทย แต่มันอยู่ที่จิตวิญญาณของความเป็นไทย ซึ่งจิตวิญญาณความเป็นไทยนี้เป็นอีกนิยามหนึ่ง สรุปความได้ว่าการเป็นไทยตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบแล้ว แต่อยู่ที่จิตใจ การใช้ของนอก การใช้ชื่อฝรั่ง หรือว่าจะมีแฟนเป็นฝรั่ง แต่ถ้ารู้สึกว่าเราเป็นไทยอยู่ ก็ยังเป็นไทยได้”

จากการบรรยายในหัวข้อ “เป็นไทยอย่างไรในโลกสากล” ของ พระไพศาล วิสาโล

ในการประชุมวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านสุขภาพ ประจำปี 2542 เรื่อง “เตรียมคนสู่อนาคต”

 

 

หนังไทย
บ้านผีปอบ :
ตำนานสุดคลาสสิกของหนังผีไทย

 



            น่าแปลกที่เราพูดถึงบ้านผีปอบ เรากลับไม่พบความกลัวอยู่ในตัวหนังซีรีส์นี้ เราพบแต่ความตลกขบขัน ใบหน้าไร้อารมณ์ของปอบหยิบ ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนบทและผู้กำกับ ที่สรรหาสกิลการหนีผีปอบขั้นเทพในตัวหนังยี่ห้อผีปอบทั้ง 14 ภาค (ใช่แล้ว นี่คือหนังที่มีภาคต่อยาวนานตั้งแต่ปี 2532-2554)

            จากตัวละครผีปอบในนิยายของครูเหม เวชกร ถูกบิด ใส่สี ตีอารมณ์ขันลงไปจนกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเบาสมองที่โด่งดังและเติบโตมาอย่างยาวนาน โดยมีณัฐนี สิทธิสมาน ที่ได้ฉายานามว่า เจ้าแม่ผีปอบ กลายเป็นสัญลักษณ์ของยี่ห้อหนังเรื่องนี้ (แม้จะไม่ได้แสดงครบทั้ง 14 ภาค แต่ภาพจำของบ้านพี่ปอบต้องยกให้เธอ) ภาพของปอบหยิบผู้โด่งดังที่มีวิธีวิ่งไล่จับคนแปลกๆ เช่น เช่น ขี่บั้งไฟ ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือสกิลการหนีผีตั้งแต่วิ่งหนีขึ้นต้นไม้ เหาะข้ามคลอง มุกวาดรูปเป็นประตู มุกกระโดดถอยหลัง ขาดไม่ได้และยังกลายมาเป็นยี่ห้อของหนังไม่แพ้ตัวผีปอบ อย่างการหนีลงโอ่งที่คนลงไปได้เป็นสิบคน มุกหนีผีลงโอ่งนี้ยังถูกนักสร้างเกมชาวไทยที่สร้างเกม home sweet home เมื่อปี 2017 ได้จำลองสถานการณ์หนีผีลงโอ่ง และเกมนี้ได้ถูกวางขายไปทั่วโลกอีกด้วย

            ต้องยอมรับว่าเราได้เข้าสู่ปี 2561 ที่แม้ตัวหนังอาจจะไม่ได้ครองใจคนดูในยุคนี้ดังเช่น 30 กว่าปีก่อน แต่บ่อยครั้งถ้าเราถามหาหนังไทยที่ชวนให้นึกถึงอารมณ์บันเทิงเริงใจแบบไทยสไตล์ บ้านผีปอบและโอ่งมังกรจะชวนให้เรานึกถึงความเป็นไทยทุกที พอกลับมาตั้งคำถามว่าเพราะอะไร คนไทยสนใจเรื่องภูตผี คนไทยมีอารมณ์ขัน และคนไทยผูกพันกับโอ่งนั่นเอง (ฮา)

 

 

ศิลปินไทย
นักรบ มูลมานัส นักทำภาพประกอบหน้าใหม่ที่หยิบความเป็นไทยผสานใส่วิปครีม



            จากบทสัมภาษณ์ของนักรบ มูลมานัส ในเว็บไซต์ http://www.bangkokbiznews.com

กรุงเทพธุรกิจที่นิยามตัวตนของนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่คนนี้เอาไว้ว่า เขาคือคนรุ่นใหม่ที่กล้าหยิบจับความเป็นไทยให้ลงจาก ‘หิ้ง’ ให้มาคลุกกับสิ่งต่างๆ ถ้าคุณยังนึกไม่ออกว่า หยิบความเป็นไทยลงมาจากหิ้งจะเป็นอย่างไร ให้ลองคลิกเข้าไปที่ https://www.facebook.com/nakrobmoonmarsnut/

 

          

           เด็กหนุ่มวัย 26 ปี ดีกรีอักษรศาสตร์บัณฑิต อีกด้านเขาคือแฟนพันธุ์แท้คนรักวังปี 2007 ที่ในวันนี้เขาคือนักทำภาพประกอบแนวคอลลาจที่มาแรงคนหนึ่งในปี 2017 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโจทย์การออกแบบโปสเตอร์หนัง หรือทำภาพประกอบในนิตยสารชั้นนำหลายเล่ม ที่หยิบความเป็นไทยมาตีความและตัด แปะ และบอกเล่าในมุมมองใหม่ผ่านภาพสไตล์คอลลาจเรียบหรู บางโจทย์เขาเล่าได้อย่างอ่อนช้อย บางโจทย์เขาเล่าได้อย่างจิกกัดและเสียดสี และบางโจทย์เขาเล่าออกมาได้อย่างผสมผสานทั้งความเป็นไทยจ๋า จีนสุดขอบ หรือแม้แต่พาเราเดินทางไปสู่วัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างละมุน พินิจงานภาพประกอบของเขาชวนให้เราไม่ได้มองไทยแบบไทยจ๋าแต่เราเห็นความสากลอยู่ในชิ้นงานเหล่านั้น

 

Facebook : https://www.facebook.com/nakrobmoonmarsnut/

 

 

คาเฟ่ไทย

วันดีคาเฟ่ ไอติมไทยใส่แฮชแท็ก #onedeecafe

 

 

 

           จากตึกแถวสองชั้นในซอยอารีย์ ถูกดัดแปลงคาเฟ่สไตล์ไทยที่ตกแต่งในสไตล์มินิมอล และนำขนมไทยมาดัดแปลงให้เป็นไอศกรีมสุดหวานมัน (แน่นอน ขนมไทยขอชูโรงด้วยความหวานและมันไว้ก่อน) แค่เอ่ยชื่อแต่ละเมนูเราก็รับรู้ถึงความหวานที่พุ่งมาจุกถึงคอ (แต่เราชิมหมดนะ) ทั้งเมนูไอศกรีมรสตาลโตนด ชวนให้เรานึกถึงท็อฟฟี่ตาลโตนดคาราเมลที่ห่อด้วยกระดาษสาหลากสี ไอศกรีมชาชัก ไอศกรีมขนมตาล ไอศกรีมกะทิหน้ากุ้ง เพิ่มท็อปปิ้งเป็นลูกชุบหรือทองม้วนกรอบก็เก๋ไม่หยอก ทุกเมนูเสิร์ฟพร้อมถ้วยทองเหลืองและถ้วยชามเบญจรงค์ให้อารมณ์หวานละเมียด เหมาะสำหรับเป็นเมนูตบท้ายหลังมื้ออาหาร ตามคำไทยโบราณที่กล่าวว่า ‘กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่’ ยิ่งนัก


ซอยอารีย์ พหลโยธิน 7
https://www.facebook.com/onedeecafe/

 

 

เทศกาลไทย
เทศกาลบางกอกแหวกแนว 2018 / BangkokEdge Festival 2018

 

 

 

           กลับมาอีกครั้งกับ ‘เทศกาลบางกอกแหวกแนว’ ถ้าใครพลาดความบันเทิงแบบร่วมสมัยในปีที่แล้ว ปีนี้วางแผนใหม่และไปด้วยกัน

           การรวมตัวของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร อัดแน่นไปด้วยกิจกรรม ทั้งเสวนา เวิร์กช็อปจากวิทยากรชาวไทยและชาวต่างประเทศ อาทิ Chris Baker, Julian Thomson, Christina Lamb, Marina Mahatir, Lawrence Osborne, Medeliene Racknagel และคุณวีรพร นิติประภา มีกิจกรรมสาธิต เปิดตัวหนังสือ วรรณกรรม ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ และงานออกร้านอาหารเครื่องดื่มและสินค้า Art & Crafts มากมาย นับเป็นการเปิดมุมมองศิลปะในการใช้ชีวิตได้อย่างครบรส

           ปีนี้เก๋ไก๋และใส่ใจความยั่งยืน เทศกาลบางกอกแหวกแนวในปีนี้ส่งเสริมการลดปริมาณขยะและช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม หากเพลิดเพลินเดินแวะซุ้มอาหารต่างๆ ผู้จัดงานขอส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมนำภาชนะมาเองจากบ้านด้วยนะ

วันเสาร์ อาทิตย์ที่ 20-21 มกราคม 2561 ที่มิวเซียมสยาม จักรพงษ์วิลล่า และโรงเรียนราชินี

https://www.facebook.com/bangkokedge/

 

 

เรื่อง ชมพูฟิวเซีย



ย้อนกลับ