มนุษย์ทุกคนล้วนมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและรักตัวเอง แต่ในวันที่ตื่นขึ้นพร้อมคราบน้ำตา ปัญหาเฆี่ยนตีซ้ำซาก ไร้เรี่ยวแรงกระชากตัวเองให้ลุกจากเตียง หลายคนเลือกยอมแพ้ให้กับชีวิตเพราะแบกภาวะนี้ต่อไม่ไหว เช่นเดียวกับ นัชญ์ ประสพสิน เจ้าของเพจ ทูนหัวของบ่าว ในช่วงปีเกิดเหตุมียอดผู้ติดตามกว่าล้านคน (ปัจจุบัน 3 ล้านกว่าคน) ในงานครีเอทีฟโฆษณาได้ทำงานในสิ่งที่รัก ชีวิตคุณนัชญ์ดูจะเพียบพร้อมและเฮลท์ตี้ไปเสียทุกอย่าง โดยไม่ได้เผื่อใจไว้ว่าวันหนึ่งเธอต้องแบกรับความกดดันมหาศาลและคลื่นความเกลียดชังจากผู้คนในสังคมออนไลน์
เมื่อชีวิตส่งบททดสอบมาให้ จากเคยเป็นที่รัก คุณนัชญ์ กลับถูกผลักไสในโลกออนไลน์แบบไม่ทันตั้งตัว เธอต้องต่อสู้กับเสียงสาปแช่งรอบด้านพร้อมๆ กับการต่อสู้ความขัดแย้งภายในจิตใจตัวเองจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า จากภาวะตึงเครียดสู่ไร้ค่า จากหูแว่วสู่หวาดระแวง ถึงขั้นการพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่สิ่งที่ยื้อชีวิตคุณนัชญ์ไว้ได้คือบรรดาแมวแสนรักที่หยิบยื่นพลังใจให้ ในวันที่เธอมองไม่เห็นใครและมองไม่เห็นทาง
เพราะรักจึงทำเพจ 'ทูลหัวของบ่าว'
นัชญ์เลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่เด็ก ตอนอยู่จังหวัดน่านกับคุณตาเลี้ยงหมาแมวไก่วัวควาย ชีวิตเราตั้งแต่เกิดอยู่กับคุณตาและบ้านสวนเพราะคุณพ่อคุณแม่มาทำงานในกรุงเทพฯ นัชญ์พบว่าลึกๆ แล้วเราไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง อาจเพราะไม่ได้สัมผัสความรักจากพ่อแม่ในวัยเด็ก พอโตมาก็เข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังเลี้ยงแมวมาตลอดจนถึงตอนทำงาน ช่วงนั้นเริ่มมีเฟซบุ๊กใหม่ๆ คนฮิตเซลฟี่แต่เราไม่มั่นใจเลยถ่ายรูปแมวลง ปรากฏว่าคนกดไลก์เป็นร้อย เลยแยกมาเปิดเพจลงรูปความน่ารักของแมวให้คนเข้ามาดูเล่นๆ ด้วยเป็นคนสายครีเอทีฟ นัชญ์เลยถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของแมวแต่ละตัวลงเพจ เช่น เสือสมิงจะเป็นแมวเลิศๆ เชิดๆ ดูเป็นมาดามของบ้าน เสือโคร่งเป็นคุณพ่อแสนอบอุ่น ตอนหลังเสือโคร่งไปถ่ายละครโด่งดังมีแฟนคลับตามมาในเพจเยอะ
ทำไมสิ่งที่สร้าง ‘ความสุข’ กลับกลายพาไปสู่ ‘ซึมเศร้า’
ตอนนั้นโลกออนไลน์ไม่มี พรบ. คอมพิวเตอร์ มันอิสระในการแสดงความคิดเห็น เราโดนด่าว่าหากินกับแมว รังแกแมว ยุคนั้นเขามีล่าแม่มด เราโดนด่ากลางห้าง ตามมาตะโกนด่าหน้าบ้าน สาดน้ำกรด ขูดรถ เอาเบอร์เราไปลงเน็ตแล้วบอกว่าขายตัว เครียดจนลาออกจากงานประจำเพราะมีคนโทรไปด่าที่ทำงาน
นัชญ์เป็นคนที่ self esteem ต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งหนักเพราะมักเอาความรู้สึกไปแขวนกับคำพูดของคนอื่น ภายนอกดูเหมือนมั่นใจแต่ข้างในเหมือนหอยทากที่พยายามหาเปลือกของตัวเองไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นเราพยายามเข้มแข็งโดนด่ามาก็ด่ากลับ สะใจแต่แป๊บเดียวก็เสียใจ พอร้องไห้สักพักก็อยากกลับไปปะทะใหม่ รู้เลยว่าเรารับมือกับภาวะนี้ไม่ได้จริงๆ
เครียดหนักจนพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง
วันที่หนักสุดเมื่อรู้ความจริงว่าคนที่ทำร้ายเราคือคนที่ไว้ใจและใกล้ตัวที่สุด เราโหยหาความรักตั้งแต่เด็ก แคร์ทุกคนรอบข้าง พอรู้ว่าคนเกลียดเราเสียใจมาก สับสนไปหมด มาออกอาการหนักๆ ตอนเริ่มหูแว่ว เดินผ่านใครก็คิดว่าเขานินทาต้องด่าเราอยู่แน่ๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้กรี๊ดกลางห้าง นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง พอไม่ได้นอนก็พลุ่งพล่านคิดโปรเจ็กล้านแปดแล้วก็สลบไปเลย 3-4 วัน หลังๆ พูดอะไรก็ไม่รู้ตัว จนสุดท้ายพยายามฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าตายไปแล้วเรื่องคงจบ คนที่ว่าเราต้องรู้สึกผิด ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่ามันไม่จริง ถึงเราตายไปตอนนั้นก็โดนด่าอยู่ดีไม่มีใครสนใจ แต่ช่วงนั้นยังคิดไม่ได้ไง พอมีสติกลับกลัวตาย สักพักก็พยายามฆ่าตัวตายอีก วนเวียนแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตัดสินใจไปหาหมอ วันนั้นเราไม่ไหวแล้ว ทรมานสุดๆ เพราะกลัวตายขึ้นมาจริงๆ
แมวที่รักจะเยียวยาทุกอย่าง
หลังจากพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ มีวันหนึ่งเราเขียนพินัยกรรมว่าจะยกอะไรให้ใคร แมวตัวไหนใครดูแล แล้วมันมีตัวที่เรารักมาก กลัวพวกเขาลำบาก อย่างเสือขาวต้องไปหาหมอตลอด ถ้าเราฝากคุณแม่ไว้จะดูแลไหวมั้ยนะ ถ้าแมวป่วยใครจะหาที่รักษาดีๆ ให้ ห่วงเสือโคร่งถ้าเราเป็นอะไรไปเขาอาจต้องอยู่ตามมีตามเกิด รู้สึกเหมือนเขาเป็นลูกอยากดูแลให้มีความสุขตลอดไป
ตอนนั้นมีอโศก เสือโคร่ง เสือขาวที่เราเป็นห่วงหนักๆ กลายเป็นว่าน้องแมวฉุดสติเรากลับขึ้นมา ช่วงที่หมอปรับยาเราแหลกไปหมดมันเหนื่อยมาก แต่เหมือนเขารับรู้ได้ โดยเฉพาะเสือโคร่งถ้าเห็นเรานอนซมจมกองน้ำตาเขาจะเข้ามากอด มานอนบนตัว เอามือมาแตะที่อก รู้สึกเหมือนเขาพยายามปลอบใจ..ไม่เป็นไรนะแม่ ทำให้เราก้าวข้ามความทรมานและฮึดสู้ต่อไป
Catster by Kingdomoftigers พื้นที่ Healing ระหว่างคนกับแมว
แมวก็เหมือนมนุษย์ ต่างที่มา ต่างพ่อแม่ โดยเฉพาะแมวจรที่ดุมากเพราะเขาต่อสู้อะไรมาเยอะ แต่เมื่อมือที่เคยตีเปลี่ยนเป็นมือที่กอด ลูบไล้ เกาคาง เขาจะสัมผัสได้ถึงความรัก แล้วกลายเป็นว่าคนที่เขามาเล่นกับแมวผ่อนคลายเพราะเขาได้รู้สึกถึงการเป็นผู้ให้ เป็นพลังบวกที่ถ่ายทอดระหว่างคนกับแมว ผลัดกันให้ผลัดกันรับ ตัวนัชญ์เองก็ได้รับความสุขกลับมาด้วย ยิ่งถ้าวันไหนแมวได้บ้านใหม่ที่พร้อมจะดูแลเขา เราจะเฮกันทั้งทีมโดยเฉพาะแมวดำ แมวสีเปรอะ แมวพิการที่ตาบอดหรือแขนหัก ถ้าเขามีชีวิตที่ดีขึ้นเราเองก็มีความสุข แต่กว่าจะหาบ้านให้แมวได้เราต้องทำงานกันหนัก เพราะแมวแต่ละตัวกินของไม่ถูกสุขลักษณะมา เห็บหมัดเหาเต็มตัว มีโรคภัยไข้เจ็บ เราต้องให้อาหารที่ดีและเหมาะกับเขาตั้งแต่มื้อแรก เพื่อให้ฟื้นฟูตัวเองเร็วที่สุด พร้อมสำหรับเป็นแมวบ้านต่อไป นัชญ์คิดว่าการเปลี่ยนแมวจรให้เป็นแมวบ้านคือวิธีที่ดีที่สุดของการช่วยแมวจร
ดูแลจิตใจด้วยจิตบำบัดควบคู่กับการกินยา
ช่วงที่เป็นภาวะซึมเศร้าว่าหนักแล้ว ช่วงที่ต่อสู้กับยาหนักกว่า นัชญ์เข้าใจคนที่ไม่อยากทานยาเพราะผลข้างเคียงของมันเยอะมาก การทดลองปรับโดสยาให้เหมาะกับแต่ละคนใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ระหว่างนี้นัชญ์ทำจิตบำบัดควบคู่กัน รื้อฟื้นไปถึงต้นตอที่ทำให้เราเป็นคนแบบทุกวันนี้ ค้นพบความอ่อนแอ เพื่อโอบกอดและให้อภัยตัวเอง มีอันหนึ่งที่ชอบคือการรักษาแบบ EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing) เป็นการบำบัดจิตรูปแบบหนึ่งที่ไปทำงานกับความทรงจำที่เจ็บปวดในอดีต ลบความทรงจำชุดนั้นออกไปแล้วแทนที่ด้วยความเข้าใจและเรียนรู้จากความทรงจำนั้น ส่วนใหญ่ใช้กับคนที่มีปัญหาหนักๆ เช่น ทหารที่ไปรบในสงคราม ผู้หญิงที่โดนข่มขืนจากคนในครอบครัว แต่ก็ช่วยในกรณีอื่นเช่นภาวะเศร้าที่ซับซ้อน ความหวาดกลัว ทุกครั้งก่อนไปหานักจิตบำบัดเราจะรู้สึกแข็งแกร่งมาก แต่พอเข้าไปปุ๊บเรามักเจอส่วนที่อ่อนแอซ่อนอยู่ แล้วนักจิตบำบัดก็จะมีวิธีคลายปมให้เรา ทำให้ได้ตรวจสอบตัวเองและพัฒนาจิตใจไปในตัว
อะไรที่ไม่ควรทำเมื่ออยู่ข้างๆ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
“ไปวัดมั้ย อ่านหนังสือธรรมะ ไปออกกำลังกายมั้ย” เข้าใจความห่วงใยที่ทุกคนหยิบยื่นให้ แต่ตอนนั้นทำไม่ไหว ลำพังแค่ลุกจากเตียงก็แย่แล้ว กลายเป็นรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นผิดหวังในตัวเราเข้าไปอีก แต่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่ามีคนคอยอยู่ข้างๆ ในเวลาที่ต้องการ ฟังแล้วเหมือนคนเห็นแก่ตัวนะ แต่ถ้าวันไหนเราโทรไปหาใครสักคนนั่นแปลว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ และคุณคือคนที่เราเหลืออยู่ แค่อยากให้ช่วยรับฟัง อย่าตัดสินหรือรำคาญกันเลย
สิ่งดีๆ เมื่อก้าวผ่านโรคซึมเศร้า
มองย้อนกลับไป 8 ปีที่ผ่านมา โรคซึมเศร้าทำให้นัชญ์ได้ตรวจสอบตัวเองเพื่อแก้ไขและปรับปรุงให้เป็นคนที่ดีขึ้น ถ้าไม่ได้เผชิญภาวะนั้นเราอาจไม่ได้พัฒนาและภูมิใจในตัวเองเหมือนทุกวันนี้ เราได้เข้าใจกระแส ดราม่าในโลกโซเชียลว่ามันเกิดดับเวียนว่ายวนไปแบบนี้แหละ เราต้องรู้ให้ทันและหันกลับมารักตัวเอง
How To สู้ซึมเศร้าในแบบของนัชญ์
อันดับแรกต้องหาวิธีทำจิตใจให้แข็งแรง เมื่อแข็งแรงแล้วเราสามารถทำอะไรได้อีกเยอะ เมื่อนั้นเราจะเห็นคุณค่าของตัวเอง เช่น ถ้าลองเลี้ยงแมวจรดูสักตัว วิธีคิดของคุณจะเปลี่ยนไป มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความสุขและภูมิใจเมื่อได้เปลี่ยนแมวที่ไม่มีใครต้องการให้กลายเป็นแมวที่มีความสุขที่สุดในโลก คุณทำให้โลกของแมวตัวนั้นเปลี่ยนไปเลย
เมื่อเราได้มีชีวิตอยู่เพื่อช่วยคนอื่น ตัวเราเองนั่นแหละจะดีขึ้น ตอบได้นางเอกมากแต่มันเรื่องจริง นี่คือวิธีคิดที่ทำให้นัชญ์รักตัวเอง แต่คนเราก็มีวิธีสร้างความรักความภูมิใจในตัวเองต่างกัน ลองค้นหาให้เจอ หรือใครอยากจะใช้วิธีแบบนัชญ์ดูก็ยินดีค่ะ
* เพจ ‘Kingdom Of Tigers : ทูนหัวของบ่าว’ สารพัดเรื่องราวน่ารักของแมวจร, กิจกรรมช่วยเหลือทั้งน้องแมวและคนเลี้ยงแมว เพื่อให้โลกของแมวน่าอยู่ขึ้น
** Catster by Kingdomoftigers คาเฟ่หาบ้านให้แมวจร