Muse Mag
Muse Idol : “บุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์” ชีวิตที่ดี ไม่ได้มีแค่โชคช่วย
Muse Mag
06 ก.ค. 64 453

ผู้เขียน : Administrator

 

 

            สังเกตไหม เวลามองดูชีวิตคนอื่น สิ่งที่เห็นคือความก้าวหน้าในอาชีพ มีครอบครัวที่ดี ท่องเที่ยวในสถานที่สวยๆ กระทั่งถูกหวยบ่อยๆ จนอดคิดไม่ได้ว่าทำไมชีวิตช่างง่ายดายและโชคดีขนาดนี้ แต่เมื่อได้ฟังทัศนคติและมุมมองการใช้ชีวิตของพวกเขา เรากลับพบว่าความโชคดีนั้นใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ แถมยังต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่าง ถ้าได้แต่ไขว่ห้างนั่งรอให้โชคช่วย ชีวิตดีๆ อาจจะมีแค่ในเฟซบุ๊กกับไอจีเท่านั้น


            คำพูดหนักแน่นและแววตาจริงจังทำให้เราลืมไปชั่วขณะว่ากำลังคุยกับเจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุ บุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ที่เพิ่งคว้ามงกุฎบนเวทีประกวดนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ ปี 2564 มาหมาดๆ เธอเป็นคนที่ใครๆ ก็คิดว่าชีวิตเธอนั้นโชคดี มีธุรกิจส่วนตัว มีครอบครัวอบอุ่น ถูกหวยเป็นว่าเล่น อาชีพการงานก็ประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้บุ๊คโกะถ่ายรายการสดทุกวัน วันละ 5 รายการ แต่ละรายการมีคาแร็กเตอร์แตกต่างกัน ภายใต้ความเฮฮาแสนสดใส บุ๊คโกะทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งหาข้อมูลข่าวสารจากทั่วสารทิศเพื่อให้หูตากว้างไกลพอจะคุยกับทุกคนในทุกๆ เรื่องได้ และพยายามไขว่คว้าหาโอกาสใหม่ๆ ในขณะที่ต้องเตรียมจิตใจให้แกร่งสมกับงานที่ถาโถมในทุกวัน ไม่ว่าจะเหนื่อย เครียด หรือมีปัญหาส่วนตัวก็ต้องสลัดทิ้งให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อแสงไฟส่องประกายเบื้องหน้า เธอคือความคาดหวังที่นำพาความสุขมาสู่ผู้ชม และตอนนี้ความสุขของเธอก็ถ่ายทอดมาสู่เราเช่นกัน

 

 

ความมูเตลูอยู่ในสายเลือด


            บุ๊คโกะเกิดในครอบครัวข้าราชการทหาร ชอบดูทีวีตั้งแต่เด็กแล้วจำดารามาเลียนแบบ เรามีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากแตกต่างจากคนอื่น ถึงแม้จะเกิดในครอบครัวทหาร แต่โชคดีที่คุณแม่เข้าใจว่าเราต้องการอะไร อยากเป็นแบบไหน ส่วนคุณพ่อสอนให้เข้มแข็งในสไตล์ทหาร เราเลยได้ความเข้มแข็งแบบทหารแต่ยังมีความหวานแบบเด็กผู้หญิง ที่บ้านนับถือศาสนาพุทธ เราถูกปลูกฝังให้เข้าวัดทำบุญตั้งแต่เด็ก เวลาคุณพ่อคุณแม่เดินทางไปหาเลขเด็ดมาเสี่ยงโชคก็ติดสอยห้อยตามไปด้วย ดังนั้นเรื่องบนบานศาลกล่าวขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราเชื่อมานานมากแล้ว เราชื่นชอบความมูเตลู เชื่อเรื่องพวกนี้ ยิ่งพอเข้ามาในวงการบันเทิง ดารานักแสดงเยอะ ก็คิดว่าจะทำยังไงให้มันปังๆ เลยขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าวัดทำบุญเป็นที่พึ่ง แต่สำคัญที่สุดคือเราต้องรู้จักพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆ กัน

 

คนรุ่นใหม่กับความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมุมมองบุ๊คโกะ

            คนรุ่นใหม่มีหลายประเภท ความคิดเห็นก็แตกต่างกันไป เราไม่ได้อยากให้ทุกคนคิดเห็นเหมือนเรา แต่สำหรับบุ๊คโกะ สิ่งศักดิสิทธิ์เหมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการใช้ชีวิต นอกจากพ่อแม่ที่เป็นพระในบ้าน การทำงานในวงการบันเทิงก็มีครูบาอาจารย์ การแสดงก็มีพ่อแก่ มีพระพิฆเนศวรให้เราได้ไหว้เพื่อเสริมสิริมงคล แม้มองไม่เห็น แต่เชื่อว่าถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้แล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อนใคร ทำแล้วมีความสุข บุ๊คโกะก็จะทำ ส่วนใครจะพูดหรือวิจารณ์อย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราทำอะไรและก็เป็นสิทธิ์ของเราเหมือนกัน

 

 

เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยเห็นบุ๊คโกะพา “น้องวันใส” ไปไหนต่อไหน

            ตุ๊กตาลูกเทพที่ชื่อน้องวันใสก็ยังอยู่ เราเองไม่ได้เลี้ยงเอากระแส ทุกวันนี้น้องวันใสยังเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ไม่ว่าจะไปต่างจังหวัดหรือเมืองนอก เราก็พาไปด้วยทุกที่ แต่เราให้น้องอยู่ในที่ที่เหมาะสม ไม่ทำให้คนอื่นตกใจ อย่างเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา น้องดังมากถึงขนาด CNN บินมาทำข่าวบุ๊คโกะที่เมืองไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นน้องคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าวันนั้นบุ๊คโกะนอนกอดตุ๊กตาลูกเทพหรือตะกรุดโดยไม่ลงมือทำสิ่งต่างๆ มันจะไม่มีวันนี้ บุ๊คโกะเชื่อว่าถ้าเรามีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและลงมือทำ มันจะพาเราไปสู่บันไดแห่งความสำเร็จได้ในสักวัน

 

เครื่องราง ของขลังที่พกติดตัว

            บุ๊คโกะมีของขลังเยอะมาก ที่พกติดตัวตลอดมีแหวนหัวนะโม แหวนนพเก้า มี 9 อัญมณีช่วยส่งเสริมเรื่องบุญบารมี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายเสริมสิริมงคล และแหวนเพชร โบราณเชื่อว่ากระจกจะคอยผลักดันสิ่งที่ไม่ดีออกไป พ่อแม่เห็นว่าเราเดินทางบ่อย กลัวว่าบางทีมีลมเพลมพัด แต่จะให้พกกระจกติดตัวไปด้วยตลอดเวลาก็ใช่ที่ ดังนั้นอัญมณีที่เหมือนกระจกก็คือเพชร จะสะท้อนสิ่งไม่ดีกลับออกไปไม่ให้เข้าตัวเรา

 

หมั่นสร้างพลังบวกด้วยตัวเอง


            นอกจากพลังใจจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว บุ๊คโกะเชื่อว่าเราเท่านั้นที่จะสร้างพลังบวกให้กับตัวเองได้ ดังนั้นถ้าเราเศร้าเสียใจหรือทุกข์กับเรื่องอะไรจะรีบตัดออกไปทันที พยายามลุกขึ้นมาเองให้ได้ อาจหากิจกรรมหรืออะไรที่ทำให้ตัวเองดีขึ้น เพราะหน้าที่เราคือการให้ความสุขกับคนอื่น คนดูเขาคาดหวังความสุขจากเรา เจ้านายและเพื่อนร่วมงานก็คาดหวังให้งานออกมาดี เราไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ทั้งแววตาสีหน้าท่าทางหรืออะไรก็แล้วแต่ต้องส่งพลังบวกออกไปเสมอ แต่พออยู่หลังกล้องเราอาจมีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่กับตัวเอง ชอบอ่านหนังสือ อัพเดตข่าวสารบ้านเมืองและความรู้รอบตัวตลอดเวลา เจอข้อมูลแนวไหนมาบุ๊คโกะก็อ่านหมด เพราะเราต้องใช้ในการทำงานของเรา

 

 

มีดวงเรื่องเสี่ยงโชคก็ดี แต่อยากมีโชคเรื่องการงานมากกว่า

            เชื่อไหมเวลาไปไหนมาไหน คนชอบขอเลขจากบุ๊คโกะ ตอนนั้นไปวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เราก็ดึงเลขออกมา ปรากฏว่ามีคนไปซื้อแล้วถูก ถึงพื้นฐานตามวันเกิดจะมีดวงเรื่องตัวเลข แต่เอาเข้าจริงเรามีดวงเรื่องการงานการเงินมากกว่า เช่น เวลาไปแข่งเสนองานหลายๆ เจ้า เรามักได้งาน เวลาจัดงานอีเวนต์ ผู้หลักผู้ใหญ่จะชื่นชมและคอยสนับสนุน ถ้าเรื่องเสี่ยงโชคจะบอกคนอื่นแล้วเขาถูกมากกว่า ตัวเองไม่ค่อยจะได้


            ล่าสุดเพิ่งถูกลอตเตอรี่เลข 19 เป็นเลขวันเกิดของตัวเอง เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้วก็ถูกเลขนี้ ออก 19 เหมือนกันเป๊ะ แต่ตอนนั้นดันหาลอตเตอรี่ไม่เจอเพราะเตรียมตัวประกวดอยู่  ปรากฏวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาเราซื้ออีก แล้วมันออก 19 สรุปถูกอีก แล้วอยู่ๆ พอล้วงกระเป๋าเสื้อปรากฏเจอลอตเตอรี่งวด 30 ธันวาคมที่เราหาไม่เจอโผล่มาอีก แสดงว่าเดือนนี้ดวงดี แต่เงินที่ถูกลอตเตอรี่ให้แม่หมดเลย เพราะเชื่อว่าตัวเราเป็นดวงทำงานแลกเงินถึงจะได้เป็นกอบเป็นกำ ได้จากการเสี่ยงโชคก็ให้แม่ไปเถอะ แม่ก็แฮปปี้ เราก็แฮปปี้ ตอนนี้เลยตั้งใจทำงานอย่างเดียว


            นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้วก็ทำธุรกิจ Bookko Agency พาไปศัลยกรรม กับขายลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก ก็เป็นธุรกิจของกินกับเรื่องความงาม เป็นสองสิ่งที่เราชอบ ส่วนการจะประสบความสำเร็จได้นั้น บุ๊คโกะมีหลักคิดว่าเราต้องรู้จักกตัญญูต่อพ่อแม่ ต้องรู้จักเคารพหน้าที่การงานของตัวเอง เราจะวิ่งกี่งานก็ได้ แต่ต้องไปงานถัดไปให้ทัน เราเชื่อว่าทุกๆ คน ทุกๆ งานรอเราอยู่ เวลาทำงานเราไม่แผ่วและทำเต็มที่ ส่วนเวลาพักผ่อนเราพักเต็มที่เหมือนกัน

 

 

 

สติคือพรที่ดีที่สุด

            มีหลายเหตุการณ์ที่อธิบายเป็นเหตุผลยาก ล่าสุดที่เราไปประกวดนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ เราไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นั่น ขอให้เราตั้งสติได้ฟังคำถามและตอบคำถามได้ดี เรากังวลเพราะคิดว่าการตอบคำถามมันต้องใช้ความรู้รอบตัวเยอะ แล้วทุกคนจับจ้องมาที่เรา พอถึงเวลาจริงรู้สึกว่าคำถามมันยากมาก คำตอบวิ่งอยู่ในหัวเราเยอะ กดดันเพราะต้องขมวดปมตอบให้อยู่ภายใน 30 วินาที  แต่ปรากฏว่าอยู่ๆ เราก็ตั้งสติได้ในทันทีและไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรในการตอบคำถาม ตอนนั้นเราถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเก็ง แต่ถ้าตัวเก็งทำไม่ดีนี่คือการเขวี้ยงมงกุฎเลยนะ พอตอบเสร็จเรารู้สึกว่าทำได้ดีเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พรเราเลย นอกจากคุณแม่ที่บุ๊คโกะเคารพบูชาแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกมีพลังขึ้นมา

 

โอกาสไม่เคยวิ่งไปหาใคร นอกจากเราจะวิ่งไปหามันก่อน

            สะใจมาก!! มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก เราเคยเล่นจัดประกวดนางงามกับเพื่อนตลอด ตอนที่ประกาศว่า หมายเลข 37 นายธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ได้ครองมงกุฎนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจปี 2564 ตอนนั้นเราสะใจที่เอาชนะตัวเองได้และไม่ทิ้งความฝัน ตำแหน่งนี้เป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์เวทีนางสาวเชียงใหม่รวมถึงนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ คล้ายทูตวัฒนธรรมการท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองเชียงใหม่ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเวทีนี้ เพราะเขาเปิดกว้างให้ทุกเพศทุกวัยเข้าประกวด  เชื่อเถอะไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ จงอย่าลืมความฝัน ความกลัวเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเอง ถ้าเราก้าวผ่านความกลัวไปได้ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเรา
            บุ๊คโกะเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นกุศโลบายให้เราอุ่นใจ แต่ถ้าไม่ลงมือทำแล้วนอนหลับฝันลมๆ แล้งๆ โอกาสมันไม่วิ่งมาหาเราหรอก โอกาสไม่เคยวิ่งไปหาใครนอกจากเราจะวิ่งไปหามัน ถ้าวันนี้ยังไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่ายอมแพ้ สู้ต่อไป สักวันมันจะเป็นวันของเรา

 

 

 

เบื้องหลังนางงามคือพื้นที่เปิดโอกาสทางความคิด

            หลายคนอาจมองว่าเป็นเวทีตลก เป็นเวทีประกวดกะเทยรึเปล่า เราอยากสื่อสารให้ปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการประกวดทุกเวที เพราะหลายเวทีมีทัศนคติและหยิบยกประเด็นสังคมขึ้นมาพูดคุยและเปิดพื้นที่ให้กับความคิดเห็นที่หลากหลาย อย่างที่บุ๊คโกะได้คำถามว่า “คุณคิดเห็นอย่างไรในการพกปืนในที่สาธารณะ” ก็ตอบว่า “เราไม่เห็นด้วยกับการพกปืนในที่สาธารณะ เพราะตอนที่เขาอนุญาตให้ใช้ปืน ตอนที่มาสอบเขาอาจมีสติสัมปชัญญะครบครองสติได้ แต่วันใดวันหนึ่งที่เขาครองสติไม่ได้ อาวุธปืนอาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรม แล้วขอถามกลับไปว่า ถ้าประเทศบ้านเมืองของเราสงบสุข ทำไมเราต้องพกปืนในที่สาธารณะด้วย” ก็ถูกใจหลายๆ คน เพราะว่าปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นดาบสองคม นี่แค่หนึ่งตัวอย่างคำถามที่ถูกหยิบยกขึ้นมา มันเป็นคำถามเกี่ยวกับปัญหาสังคมอย่างชัดเจน เราไม่อยากให้ตัดสินว่าการประกวดนางงามเป็นแค่เวทีขาอ่อนหรือเวทีตลกๆ ไร้สาระ แต่ควรจับมือกันพัฒนาเพื่อต่อยอดประเทศชาติของเราให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วโดยแท้จริง 

 

การเสี่ยงโชคและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง เราเองต้องวิ่งคู่ขนานไปด้วยกัน

            ตามหลักคำสอนเลยคือคนเราต้องทำมาหากิน การนอนอยู่เฉยๆ เล่นการพนันเสี่ยงโชคไม่ทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าขึ้นมาได้ แต่ถ้าเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ววิ่งเข้าหาโอกาส บุ๊คโกะเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ช้าก็เร็ว เปรียบง่ายๆ ในการวิ่งแข่งแต่ละครั้งจะมีคนเข้าเส้นชัยก่อน มีคนเข้าเส้นชัยทีหลัง มีสะดุดล้ม แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเข้าเส้นชัยคือไม่มีใครวิ่งย้อนกลับไปข้างหลัง ทุกคนจะวิ่งไปข้างหน้า เหมือนกัน อย่าใช้ชีวิตย้อนกลับไปข้างหลัง คุณต้องก้าวไปข้างหน้าถึงแม้ว่าจะไปถึงเส้นชัยช้ากว่าคนอื่นเขา แต่ถ้าเราไม่หยุดเดิน ไม่หยุดฝัน ไม่หยุดทำ ยังไงสักวันก็ต้องถึงเส้นชัย

 

 

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ