แนวคิดเรื่องธรรมชาติ ความเชื่อต่อพระเจ้า ไปจนถึงเทคโนโลยี ดูเหมือนว่าสามสิ่งนี้จะอยู่บนบรรทัดคนละเส้นกัน แต่ทุกอย่างก็ล้วนเป็นจริงและเกิดขึ้น ในนิทรรศการอินเตอร์แอ็คทีฟ Rain Room จัดขึ้น ณ YUZ museum มหานครเซี่ยงไฮ้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Volkswaken ประเทศจีน สร้างสรรค์โดยกลุ่มศิลปิน Random International's ชาวอังกฤษ – เยอรมัน ที่เคยสร้างความประทับใจไปแล้วที่กรุงลอนดอน และนิวยอร์ก
Budi Tek, ผู้ก่อตั้ง YUZ museum กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการนำผลงานชิ้นนี้มาตั้งตระหง่านกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ว่า ไฮไลต์สำคัญของนิทรรศการคือประเด็นสิ่งแวดล้อมในเมืองใหญ่ เพื่อต้องการส่งสารให้คนตระหนักรับรู้ว่า สายฝนและสายน้ำมีความสำคัญต่อผู้คนมากเพียงใดโดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ขึ้นชื่อและติดอันดับมลพิษทางอากาศอันดับต้นๆ
ภายในห้อง Rain Room เปิดโอกาสเชื้อเชิญให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับนิทรรศการ จำลองบรรยากาศฝนตกกลางกรุง คุณจะพบกับฉากสีดำมืดสนิทบนพื้นที่กว่า 150 ตารางเมตร ท่ามกลางเม็ดฝนที่โปรยปรายจากเบื้องบน เมื่อผู้ชมเดินผ่ากลางสายฝนไป แน่นอน คุณจะไม่มีวันสัมผัสกับสายน้ำได้เลย ด้วยระบบกล้องสามมิติจากด้านบน พร้อมเซนเซอร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหว เมื่อใดที่ผู้ชมคนเดินผ่าน ม่านสายฝนจะย้อนกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ดูภายนอกเหมือนว่าคุณยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ชวนให้คิดว่างานนี้มีเปียกแน่ๆ แต่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ที่คุณแทบจะไม่ได้รับละอองน้ำฝนใดๆ เลย (ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเคลื่อนไหวเร็วเกินไป)
ทุกย่างก้าวจังหวะที่ผู้ชมเดินผ่านตลอดนิทรรศการนี้ คุณจะได้รับประสบการณ์และถูกนำพาไปให้ตระหนึกถึง สายฝนที่ธรรมชาติ ท้องฟ้า และพระเจ้าประทานลงมาให้ คุณจะถูกล้อมรอบด้วยสายฝน แต่ทว่าคุณจับต้องมันไม่ได้ เปรียบเทียบเป็นแนวคิดเช่นว่า หากวันหนึ่งในอนาคตมาถึง ไม่มีธรรมชาติ ไม่มีฝนสายฝน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนรุ่นหลังเคยแต่เห็นสายฝน แต่จะไม่ได้สัมผัสสายฝนเช่นนี้อีกต่อไป
ความน่าสนใจของนิทรรศการไม่เพียงแต่ผู้ชมจะได้เห็นสายฝน เสียงฝน หรือแม้แต่กลิ่นของฝน ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ แต่คือการนำสื่อที่เป็นสากล ไม่มีกรอบของเชื้อชาติและภาษา แม้จะเป็นนิทรรศการที่เคยเผยแพร่ทางฝั่งตะวันออก ยุโรป แต่เมื่อข้ามฟากมาจัดแสดงที่เมืองจีน ผู้คนก็รับรู้ได้ถึงความเป็นสากลที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติ สิ่งที่พระเจ้าจากเบื้องบนประทานลงมาให้ และทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยี นอกจากการจัดแสดงจนถึงวันที่ 31ธันวาคม 2558ที่เซี่ยงไฮ้แล้ว นิทรรศการอินเตอร์แอ็คทีฟ Rain Room ยังมีแผนเดินทางไปจัดแสดงเพื่อสรา้งประสบการณ์ให้กับผู้คนอีกหลายเมืองในเอเชีย ที่แน่ๆ เมืองถัดไปคือปักกิ่ง แต่จะมาถึงประเทศไทยหรือเปล่าต้องรอลุ้นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากartlyst.com, random-international.com และ yuzmshanghai.org