การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
“ยามแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน พอเริ่มนานน้ำตาลทรายยังว่าขม” ความรักนั้นเป็นสิ่งสวยงามที่ดำรงอยู่บนความไม่แน่นอน เมื่อเวลาผ่านเลยมาถึงตอนอวสานของความสัมพันธ์ สิ่งของเครื่องใช้ที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งคู่ชีวิตอันหวานชื่นของคนส่วนใหญ่ กลับกลายเป็นสิ่งย้ำเตือนความชอกช้ำซ้ำรอยแผล แต่ไม่ใช่กับอดีตคู่รักศิลปินชาวโครเอเชียอย่าง โอลินกา วิสติกา และดราเซน กรูบิซิช ที่เปลี่ยน “ขยะความรัก” มาจัดแสดงในฐานะ “พิพิธภัณฑ์รักร้าว (The Museum of Broken Relationships)” ได้อย่างสร้างสรรค์สุดๆ
“พิพิธภัณฑ์รักร้าว” นั้นตั้งอยู่ ณ กลางกรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย โดยเป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งของมากมายที่ถูกชโลมไปด้วยความทรงจำอันแสนช้ำชอก ไม่ว่าจะเป็น ขวานด้ามหนึ่งที่หญิงสาวเคยใช้ทำลายข้าวของของแฟนหนุ่ม หลังจากพบว่าคนรักนอกใจ น้ำหอมกลิ่นโปรดของสามีที่จากไปด้วยโรคร้าย แต่ภรรยาทำใจทิ้งไม่ลง หรือแม้แต่ โน้ตข้อความ ที่ศิลปินหนุ่มเพิ่งพบหลังจากเลิกกับแฟนสาวได้ราว 2 ปี ที่เขียนว่า ‘สนใจฉันบ้าง’ ฯลฯ
สำหรับข้าวของเหล่านี้ ล้วนได้รับการบริจาคจากผู้ที่เคยผิดหวังในความรักทั่วโลก โดยปัจจุบันทางพิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้ผู้สนใจได้แบ่งปันภาพสิ่งของ และเรื่องราวอันสุดแสนเจ็บปวด ผ่านช่องทางเว็บไซต์ เพื่อจัดแสดงแกลเลอรีออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จนทำให้ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการพิพิธภัณฑ์โลก “เคนเน็ธฮัดสัน อวอร์ดส์” ในฐานะพิพิธภัณฑ์ดีเด่นด้านนวัตกรรมมาครอง
ปัจจุบัน ‘พิพิธภัณฑ์รักร้าว’ ได้มีการขยายสาขาเป็นแห่งที่สอง ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองสาขาเปิดให้บริการทุกวัน และมีราคาค่าเข้าชมประมาณ 650 บาท
ความรักนั้นเป็นสิ่งสวยงาม แม้แต่เศษซากจากความรักที่พังทลาย ก็ยังสามารถเป็นสิ่งเตือนใจให้เราเห็นความสำคัญของคนรอบข้างให้มากขึ้น ก่อนที่จะลืมตาตื่นมาในวันที่ทุกอย่างมันสายเกินไป
ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก Manager.co.th, Catdumb.com และ Tsood.com