เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเมื่อนึกถึงตรุษจีน สีแรกที่พวกเรามักจะนึกจะเป็นสีแดง?
แล้วสงสัยกันต่อไหมว่าสีแดงนั้นเกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมจีนอย่างไร?
สีแดงกับวัฒนธรรมจีน นั้นเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ทั้งสองสิ่งผูกพันกันทั้งในบริบทศาสนาความเชื่อ วัฒนธรรม และการเมือง ความนิยมสีแดงของวัฒนธรรมจีนนั้นสามารถนับย้อนได้ไปสมัยราชวงศ์โจว (Zhou) 1000 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากสีแดงนั้นเป็นสีของไฟและชาวจีนในเวลานั้นมีความคิดว่าธาตุทั้ง5 ซึ่งได้แก่ น้ำ, ดิน, ไม้, เหล็ก และไฟทั้งหมดถือกำเนิดขึ้นมาจากไฟ จากความเชื่อบูชาไฟนี้เอง ทำให้เกิดวิวัฒนาการไปสู่ลัทธิเต๋าตอน 500 ปีก่อนคริสตกาล ภายใต้ระบบธาตุทั้ง 5 นี้เอง
ทฤษฎีธาตุทั้ง 5 ของลัทธิเต๋า
ธาตุน้ำ สีดำ สื่อถึงพลังงานที่สงบ
ธาตุดิน สีเหลือง สื่อถึงพลังงานที่สมดุล
ธาตุไม้ สีเขียว/ฟ้า (เช่นเดียวกับไทย วัฒนธรรมจีนดั้งเดิมยังไม่มีการแบ่งสีเขียว/ฟ้า/น้ำเงิน) สื่อถึงพลังงานที่ฟื้นฟู
ธาตุโลหะ สีขาว สัตว์ประจำธาตุคือเสือขาว สื่อถึงพลังงานที่ร่วงโรย
และ ธาตุไฟ สีแดง สื่อถือพลังงานที่แผ่ขยาย
นอกจากนั้นไฟถูกใช้ในการหลอมโลหะสร้างเครื่องมือและอาวุธต่างๆ ไฟและสีแดงจึงถึงมองเป็นสัญลักษณ์ของพลังในที่สุด ด้วยความสัมพันธ์ของความเชื่อและวัฒนธรรมนี้เอง ทำให้สีแดงจึงถูกให้ค่าอย่างสูงในสังคมจีนนับแต่ราชวงศ์โจวเป็นต้นมา ซึ่งดูเหมือนสีแดงนั้นจะเป็นสียอดนิยมตลอดกาลของวัฒนธรรมจีน กระนั้นก็มีช่วงในยุคราชวงศ์ฉิน (Qin) ที่กำลังขึ้นมามีอำนาจแทนราชวงศ์โจวนั้น มีความพยายามจะสร้างนัยยะทางการเมืองโดยเปลี่ยนชุดราชการต่างๆเป็นสีดำ ซึ่งเป็นตัวแทนธาตุน้ำ เพื่อแสดงถึงนัยยะ ”น้ำดับไฟ” และไฟที่ว่านั้นคือราชวงศ์โจวนั่นเอง ความนิยมสีดำนั้นสืบทอดไปจนถึงยุคราชวงศ์ฮั่นสีแดงสีแดงจึงค่อยๆกลับมาสู่สังคมจีนอีกครั้ง
กวีในยุคราชวงศ์ถังตู้ฟู้ (Du Fu) ได้แต่งบนกลอนไว้ว่า “ในประตูสีแดงเสื้อและสุราส่งกลิ่นหอมหวน แต่นอกประตูนั้นมีกองกระดูกของคนหนาวตาย” ประตูแดงในบทกลอนนี้กล่าวถึงจวนขุนนางชั้นสูงที่จะทาประตูหน้าบานเป็นสีแดง ซึ่งในยุคเดียวกันนั้นเครื่องแบบขุนนาง5ระดับสูงสุดจะสวมชุดและนั่งเกี๊ยวสีแดงด้วย การให้ความหมายสีแดงนี้ถูกผนวกเข้ากับวัฒนธรรมจีนอย่างเหนียวแน่น ในยุคราชวงศ์ชิง (Qing) ซึ่งเป็นผู้ปกครองชาวแมนจูที่เชื่อมโยงตนเองกับสีคราม ต่างจากชาวฮั่นที่กลุ่มชนชาติเดิมที่ปกครองจีน ก็มีการใช้หมวกสีแดงกับขุนนางชั้นสูง จึงกล่าวได้ว่าสีแดงนั้นไม่สามารถแยกออกกับการแสดงถึงอำนาจในจีนยุคโบราณทั้งหมดได้
จากสัญลักษณ์ของพลังและอำนาจในยุคโบราณ วัฒนธรรมจีนร่วมสมัยมองว่าเป็นสีของความสุขและการเฉลิมฉลอง ในวันปีใหม่(ในที่นี้-ตรุษจีน) ญาติผู้ใหญ่จะให้เงินในซองสีแดงแก่ผู้ที่ยังไม่แต่งงานหรือในบางพื้นที่จะนับที่อายุก่อน 30 ปี แทนการแต่งงานหรือที่เรียกในภาษาฮกเกี้ยนว่า อั่งเปา(紅包) และหงเปาในภาษาจีนกลาง ซึ่งทั้งคู่แปลตรงตัวว่าซองแดง นอกจากนั้นการใช้สีแดงในการเฉลิมฉลองนั้น การคาดผ้าแดงให้กับผู้ประสบความสำเร็จ เช่น จบการศึกษา หางานได้ นั้นก็เป็นที่ปฎิบัติกัน
ถึงแม้ความหมายของสีแดงในวัฒนธรรมจีนนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเช่นเดียวกับวัฒนธรรมที่การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ก็กล่าวได้ว่าสีแดงเป็นสียอดนิยมของชาวจีนที่สื่อความหมายบวกเสมอมา และความนิยมสีแดงของจีนนี้ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นและเดินทางไปพร้อมกับชาวจีนผ่านสิ่งต่างๆทั้งยุคสมัยและการเวลา
อ้างอิง
Chinasage.info. (2018). Color Symbolism in Chinese art. [online] Available at: http://www.chinasage.info/symbols/colors.htm
He, G. (2011). A Comparative Study of Color Metaphors in English and Chinese. Theory and Practice in Language Studies, 1(12).
Qiang, H. (2011). A Study on the Metaphor of “Red” in Chinese Culture. American International Journal of Contemporary Research, 1(3).