ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี นอกจากการประดับประดาตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยต้นคริสต์มาสติดไฟวิบวับ และบรรดาป้ายข้อความคุมโทนสีเขียว-แดงส่งความสุข “เมอรี่คริสต์มาส” แล้ว พอยิ่งใกล้ถึงวันคริสต์มาส  ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้าและคลื่นวิทยุต่างๆ พร้อมใจกันเปิดเพลงที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคริสต์มาสเพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความสุขและเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลวันหยุดยาวก่อนเปลี่ยนเข้าสู่ศักราชใหม่

เชื่อว่าหนึ่งในบรรดาเพลงที่เปิดกล่อมกันตลอดเวลานั้น ทุกคนน่าจะเคยได้ยินเพลงนี้กันแน่นอน “Last Christmas”

“Last Christmas I gave you my heart

But the very next day you give it away

This year...to save me from tears

I’ll give it to someone special”

นี่คือท่อนเปิดของเพลงและเป็นเหมือนท่อนฮุคด้วย ท่อนนี้ร้องซ้ำในเพลงมากถึง 6 ครั้ง จนจบเพลง ฉะนั้นไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงนี้จึงติดหูคนฟังจนสามารถจำและร้องท่อนนี้ตามได้

หลายคนอาจจะบอกว่าเพลงนี้มันเก่ามากแล้วนะ ได้ยินมานานมาก ถูกต้อง! เพลงนี้เป็นเพลงเก่าตั้งแต่ยุค ‘80 สมัยที่เพลงนี้ออนแอร์และโด่งดังมากๆ ผู้เขียนยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยตอนที่ได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรก และได้ยินซ้ำๆ ต่อเนื่องมาทุกปีในช่วงเทศกาลคริสต์มาส 

ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1984 ศิลปินชายคู่จากอังกฤษ ชื่อวง Wham! ได้ร้องและเผยแพร่เพลง Last Christmas ออกอากาศเป็นครั้งแรก คนที่เแต่งเพลงนี้คือ จอร์จ ไมเคิล (George Michael) อาจเป็นด้วยท่วงทำนองดนตรีเพลงป็อปที่สดใสกับเนื้อเพลงที่จดจำได้ง่าย และอาจโดนใจคนฟังที่เคยมีประสบการณ์ช้ำรักในคืนวันคริสต์มาสทำให้เพลงนี้ของไมเคิลทะยานติดลมบนกลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับต้นประจำปี ค.ศ. 1984, 1986, 2016, 2017, 2018, 2019 และ 2020 แม้ปีอื่นๆ เพลงนี้จะไม่ฮอตมากแต่ก็ไม่เคยหลุดออกจากผังชาร์ต Top 100 เพลงฮิตเลย ทำให้ 36 ปีที่ผ่านมาเพลงนี้กลายเป็นเพลงดังตลอดกาลจริงๆ 

ความโด่งดังของเพลง Last Christmas ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ได้น่าจะเป็นผลมาจากศิลปินรุ่นใหม่ๆ ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กับฟังเพลงนี้มาตั้งแต่เล็กจนอาจจะกลายเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เห็นนักร้องชื่อดัง อาทิ ซาเวจ การ์เดน(Savage Garden) เทย์เลอร์ สวิฟท์ (Taylor Swift) ฮิลารี่ ดัฟฟ์ (Hilary Duff) ได้เลือกนำเพลงนี้มาร้องโคฟเวอร์ใหม่อีกครั้งในแบบฉบับของตัวเอง

มนตร์ขลังของเพลง Last Christmas ที่นอกจากจะถูกเปิดในช่วงเทศกาลคริสต์มาสพร้อมกันไปทั่วโลก ซึ่งเป็นรองแค่ 2 เพลงประจำเทศกาล (เพลง Jingle Bells กับเพลง Silent Night) นั้น เพลงฮิตจากยุคอะนาล็อกเพลงนี้ยังสามารถกลับมาทวงบัลลังก์ความฮอตได้อีกครั้งในยุคการฟังเพลงออนไลน์ด้วยยอดการสตรีมมิ่งมากกว่า 17.1 ล้านครั้งในสหราชอาณาจักรเมื่อปีที่แล้ว (ค.ศ.2019) 

ก่อนวันคริสต์มาส ดีเจคลื่นวิทยุหลายสถานียังคงถูกขอให้เปิดเพลง Last Christmas และร้านกาแฟสมัยใหม่ก็เลือกเปิดเพลงนี้กล่อมลูกค้า 

มาลองเดากันไหมว่าเราจะยังได้ยินเพลงนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน

Merry X’ Mas 2020!

แกลเลอรี่

ดูทั้งหมด