Museum Core
ล้นเกล้าเผ่าไทย เพลงชาติของชาวลูกทุ่ง
Museum Core
05 มี.ค. 61 4K

ผู้เขียน : รัชพงษ์ โอชานนท์

ล้นเกล้าเผ่าไทย เพลงชาติของชาวลูกทุ่ง

 

 

 

ช่วงปี 2519 ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวงการเพลงลูกทุ่งที่สำคัญช่วงหนึ่ง สำหรับวงการบันเทิงถือเป็นช่วงที่เกิดขึ้นของธุรกิจเพลงลูกทุ่งเต็มรูปแบบโดยมีรายได้หลักทั้งจากการแสดงโชว์และเทปเพลงเป็นล่ำเป็นสัน เห็นได้จากพัฒนาการของหางเครื่อง ทั้งชุดที่ใส่ รูปแบบการเต้น ถูกให้ความสำคัญและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้ชมมากขึ้น ส่วนในด้านของสังคมในยุคนั้นวงการเพลงลูกทุ่งก็ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ด้วยเช่นกัน ปรากฏการณ์ที่นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากเข้าป่าจับอาวุธสนับสนุนการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ยิ่งทำให้ความร้อนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้น บรรยากาศในช่วงนั้นเราจะเห็นข่าวความต่อเนื่องในเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) กับเจ้าหน้าที่รัฐมีให้พบเห็นอยู่เสมอ ๆ เนื่องจาก ภาคเหนือ อีสาน และใต้ ล้วนแล้วแต่มีฐานที่มั่นของ ผกค. ทั้งสิ้น มีการพระราชทานเพลิงศพทหาร ประชาชน ที่เสียชีวิตจากการปะทะกันที่วัดพระศรีมหาธาตุปีละหลายร้อยราย ส่วนเหตุการณ์สำคัญ ๆ ก็เช่น การลอบยิงเฮลิคอปเตอร์ ของหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิต เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2520

 


ความดุเดือดของการสู้รบก็ขยายตัวไปยังพื้นที่ทางวัฒนธรรม วงการเพลงลูกทุ่งเช่นกัน เพลงในยุคนี้เป็นยุคที่วงการเพลงลูกทุ่งเริ่มหันเหสู่การผลิตเพลงที่รับใช้อุดมการณ์อนุรักษ์นิยมเชิดชูสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แตกต่างจากเพลงในยุค 2514 เป็นต้นมาที่บทเพลงส่วนใหญ่จะเน้นเนื้อหาพูดถึงความทุกข์ยากของคนจน วิถีชีวิตของคนชนบท ส่วนเพลงเนื้อหาจริงจังกับชีวิตมาก ๆ ก็หลบไปอยู่ในป่าและมีอุดมการณ์รับใช้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอย่างชัดเจน เช่น เพลงถั่งโถมโหมแรงไฟ ในขณะที่เพลงปลุกใจถูกผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมากจากรัฐบาลสมัยนั้นที่เน้นต่อสู้กับภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์ เช่น หนักแผ่นดิน (2518) น่าสนใจที่ว่าทั้งถั่งโถมโหมแรงไฟ และหนักแผ่นดิน ต่างก็มีการใช้ความเป็นไทยขึ้นมาพูดเหมือนกัน แตกต่างกันที่ความเป็นไทยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีความหมายในทางชนชั้น ไม่ใช่หมายถึง “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” แบบที่เพลงจากฝ่ายความมั่นคงของไทยเป็นผู้ผลิตขึ้น

 


นักร้องที่ถือว่าประสบความสำเร็จในยุคนั้นคนหนึ่งก็คือ สายัณห์ สัญญา ที่ขึ้นมามีชื่อเสียงประสบความสำเร็จอย่างสูง ว่ากันว่าความนิยมของแฟนเพลงพอ ๆ กับปรากฏการณ์ความนิยมในตัวขของสุรพล สมบัติเจริญ เลยทีเดียว เอกลักษณ์ที่สำคัญของวงดนตรีสายัณห์ สัญญา ที่เป็นปัจจัยให้ประสบความสำเร็จ คือ การออกแบบการแสดงบนเวทีตั้งแต่การคัดโฆษกวง ชุดหางเครื่อง รูปแบบการรีวิวประกอบเพลง ที่จะสื่อสารเนื้อหาของเพลงผ่านการแสดงเล็ก ๆ เหมือนพาผู้ชมไปชมละครเรื่องหนึ่ง เหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้วงประสบความสำเร็จ

 


เพลงที่อยากจะเชิญชวนทุกท่านฟัง คือ เพลง “ล้นเกล้าเผ่าไทย” ของสายัณห์ สัญญา เป็นเพลงที่พูดถึงความเป็นไทยที่ร้อยรัดดวงใจเข้ากับสถาบันกษัตริย์อย่างแนบแน่น ประพันธ์ โดย ชลธี ธารทอง ความพิเศษของเพลงนี้ถือเป็นตัวอย่างของเพลงลูกทุ่งเพลงแรก ๆ ที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องราวของชาวบ้าน ชาวบ้าน อย่างที่หลายเพลงเคยเป็นมา แต่พูดถึงสถาบันกษัตริย์ ท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง ความสำเร็จของเพลงนี้มีมากจนเปรียบเสมือนเพลงชาติของชาวลูกทุ่งเลยก็ว่าได้

 


พิธีกรรมในการฟังเพลงนี้ทุกการแสดงโชว์ของสายัณห์ สัญญา เพลงล้นเกล้าเผ่าไทยจะเป็นเพลงแรกที่ถูกบรรเลงก่อนที่สายัณห์ สัญญา จะขึ้นเวที หลังจากรับฟังนักร้องสมาชิกในวงร้องเปิดวงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำพอถึงเวลาราว ๆ 23.00 น. โฆษกวงจะขึ้นมาประกาศเชิญชวนทุกท่านให้เตรียมตัวพบกับโชว์ของ สายัณห์ สัญญา และพูดถึงเพลงล้นเกล้าเผ่าไทยแบบให้ความหมายเพิ่มเติมเน้นความพิเศษของเพลง ตัวอย่างเช่น การพูดของมนต์ เมืองสมุทร โฆษกของวง (ช่วงปี 2519) ก่อนเปิดการแสดงเพลงนี้ “เหนืออื่นใดคือชาติศาสน์ กษัตริย์ ที่ผูกมัดดวงใจไว้แน่นเหนียว เกิดเป็นไทยรวมใจให้กลมเกลียว เพื่อสิ่งเดียวเอกราชของชาติไทย”

 


นอกจากเนื้อหาส่งเสริมอุดมการณ์ชาตินิยมแบบไทย ๆ แล้ว เพลงนี้ยังมีลักษณะการทำงานทางความคิดกับผู้เข้าชมด้วยพิธีการในการรับฟังและรับชม โดยจะมีการแสดงรีวิวประกอบเพลงโดยหางเครื่องที่แต่งกายคล้ายทหาร อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ ทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ขึ้นมาแสดงบนเวที และเชิญชวนผู้ชมร่วมแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายาลักษณ์ด้วยการยืนตรง

 


เมื่อเพลงล้นเกล้าเผ่าไทยจบ สายัณห์ สัญญา จะเดินขึ้นเวทีพร้อมกับร้องเพลง “นักเพลงคนจน” (…..ความรู้มีเพียงแค่ชั้น ป.4 …..) เพื่อเริ่มต้นการแสดงต่อไปอีกราว ๆ 2 ชั่วโมง ดังนั้นเพลงล้นเกล้าเผ่าไทยจึงเปรียบเสมือนกับธรรมเนียมการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีทุกครั้งก่อนจะมีการแสดงมหรสพแต่เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีแบบวงสายัณห์ สัญญา ที่พ่วงอุดมการณ์การต่อสู้ทางการเมืองผ่านการแสดงรีวิวประกอบเพลง และผูกกับตัวนักร้อง ทำให้การแสดงของเขาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วงชิงพื้นที่อุดมการณ์ผลิตซ้ำความหมายของคนไทย ในแบบที่ผูกพันกับสถาบันกษัตริย์

 


วงดนตรีสายัณห์ สัญญา เริ่มเปิดวงตั้งแต่ปี 2516 จนถึง ปี 2533 เมื่อมีการใช้เพลงล้นเกล้าเผ่าไทยตั้งแต่ปี 2519 อันเป็นช่วงที่การเมืองเข้มข้น งานการแสดงของสายัณห์ สัญญา ก็เข้มข้นด้วย แม้จะไม่มีการบันทึกว่ามีจำนวนการแสดงเท่าไหร่ แต่ว่ากันว่ามีงานทุกวัน ในช่วงฤดูฝนต้องเล่นในโรงภาพยนตร์ ก็สามารถเปิดทำการแสดงได้ถึงวันละ 2 รอบเลยทีเดียว ซึ่งระยะเวลาที่มีการต่อสู้ทางอุดมการณ์กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ยาวนานจนถึงปี 2524 ก็อาจจะนับได้เป็นพันเป็นหมื่นเวทีที่เพลงนี้ถูกบรรเลงประกอบรีวิวการแสดง นั่นถือเป็นการผลิตซ้ำแนวคิดกษัตริย์นิยม ที่ทรงพลังมากกว่างานของหน่วยปฏิบัติการทางจิตวิทยาของกองทัพเสียอีก ไม่แปลกถ้ายุคปัจจุบันเพลงนี้จะมีการนำไปร้องใหม่อีกหลายครั้งแม้ไม่ได้มีความขัดแย้งทางอุดมการณ์มากเท่ากับยุคนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเพลงนี้ประสบความสำเร็จในการทำให้วงการเพลงลูกทุ่งเป็นพื้นที่โฆษณาอุดมการณ์กระแสหลักของรัฐไทยเพลงแรก ๆ ก็เป็นได้

 

 

รัชพงษ์ โอชานนท์

 

 


บรรณานุกรม

 


เคน สองแคว. (15 ตุลาคม 2559). เพลงลูกทุ่งรักในหลวง. คมชัดลึก. อ่านออนไลน์

 

ณัฐพล ศรีเมือง. (25 ตุลาคม 2560). รวมเพลงเทิดพระเกียรติที่โดดเด่น กลั่นจากใจในฐานะเพลงเพื่อพ่อ. GM Live. อ่านออนไลน์

 

ไทยพีบีเอส. (30 กันยายน 2558). ศิลป์สโมสร : โฆษกวงดนตรี สีสันวงการลูกทุ่งไทย. อ่านออนไลน์

 

สาทร ศรีเกตุ. (2552). เมื่อเพลงลูกทุ่งเล่าเรื่อง 14 ตุลา:ยมบาลเจ้าขา ความชั่วช้านั้นยังไม่ตาย. ใน การเมืองวัฒนธรรมยุคเดือนตุลา. กรุงเทพฯ: มูลนิธิ 14 ตุลา.

 

 

Museum Siam Knowledge Center


เพลงลูกทุ่ง / เจนภพ จบกระบวนวรรณ.

วิวัฒนาการเพลงลูกทุ่งในสังคมไทย / ศิริพร กรอบทอง.

 

 

 

 

 

 

#Museum's Core, #Museumscore, #Raw Materials

 

 

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ