Museum Core
ถนนราชดำเนิน ในความทรงจำของพระองค์จุลฯ
Museum Core
12 ก.ค. 63 593

ผู้เขียน : รัชนก พุทธสุขา

ถนนราชดำเนินในความทรงจำของพระองค์จุลฯ

 
 
 
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ มีความผูกพันกับถนนราชดำเนินตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เนื่องจาก พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ประสูติที่ตำหนักปารุสกวันภายในวังปารุสกวัน บนถนนราชดำเนินนอก จึงพักอาศัยอยู่ที่วังแห่งนี้และทำให้พระองค์ได้สัมผัสกิจกรรมและบรรยากาศต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดแนวถนนราชดำเนิน
 
ความทรงจำที่แสนสนุกสนาน เมื่อครั้งงานฤดูหนาว “เมื่อเด็ก ๆ ข้าพเจ้าเคยเห็นว่างานฤดูหนาวเป็นเวลาที่สนุกที่สุดในชีวิต ยิ่งเมื่ออยู่ในบริเวณสวนดุสิตยิ่งน่าตื่นเต้นสำหรับข้าพเจ้ายิ่งขึ้น เพราะใกล้กับบ้านที่อยู่คือวังปารุสก์ ที่จริงการอยู่วังปารุสก์ในสมัยนั้นเคราะห์ดีมาก เพราะนอกจากงานวัดแล้วยังมีงานฉลองพระบรมรูปทรงม้าอีกด้วย ซึ่งในสมัยข้าพเจ้าเป็นเด็กเคยมีดอกไม้ไฟอย่างใหญ่โตวิเศษที่พระลาน กับมีการออกร้านขายของเล็กน้อย ๆ แต่สนุกสนานมาก ตามถนนราชดำเนินนอกตลอดไปจนถึงสะพานมัฆวาฬ ...เสียงหวูดรถไฟจำลองที่มีแล่นจากเชิงสะพานมัฆวาฬไปยังสโมสรเสือป่า ดูช่างสนุกครึกครื้นเสียยิ่งนัก งานฤดูหนาวทำให้บริเวณนั้นดูกลายเป็นสวรรค์ภายในระหว่างงานนั้นอย่างไม่มีปัญหา ...”
 
และทรงกล่าวถึงการออกร้านของเจ้านายสมัยก่อน โดยเฉพาะเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ผู้มีฐานะเป็นพระบิดาว่า

“พ่อนั้นแต่แรกทรงมีบาร์ มีพวกหม่อมเจ้าตระกูลกฤษดากรเป็นผู้ช่วย แต่บาร์นั้นเลิกเสียแต่เมื่อข้าพเจ้ายังเด็กมากจนเกือบจะจำไม่ได้เลย จำได้แต่ว่าข้าพเจ้าชอบกินมันฝรั่งทอดชิ้นบาง ๆ ที่มีอยู่ในจาน ซึ่งมีไว้ตามโต๊ะสำหรับกับแกล้มกับเครื่องดื่ม”
 
ความทรงจำที่แสนวิเศษเมื่อครั้งทอดพระเนตรเหล่าทหารมหาดเล็กเดินสวนสนามกลับโรงทหาร “ข้าพเจ้าเคยจำได้ว่าข้าพเจ้ากำลังนั่งเล่นอะไรอยู่ในห้องของข้าพเจ้าที่วังปารุสก์เวลาเย็น พอได้ยินเสียงแตรสั้นมาแต่ไกลอันเป็นเสียงที่ทำให้ข้าพเจ้าตื่นเต้นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเสียงเพลงเดินของทหารข้าพเจ้าก็รีบวิ่งไปที่หน้าต่างโดยเร็ว และเห็นทหารมหาดเล็กราวสองหมวด สวมเครื่องสนามเต็มที่ กำลังเดินแถวผ่านหน้าวังปารุสก์มาตามถนนราชดำเนินนอกกลับโรงทหารภายหลังการฝึกหัดที่แถวเขาดิน ...แต่ต่อมาในอีกไม่ช้าข้าพเจ้าเองจะต้องเดินแถวผ่านหน้าวังปารุสก์ตั้งหลายร้อยครั้ง จนไม่เห็นเป็นของแปลกน่าตื่นเต้นนัก แต่เวลานั้นเห็นว่าเป็นของวิเศษที่สุด”
 
ความทรงจำครั้งน้ำท่วมใหญ่ พ.ศ. 2460 “ฉะนั้นน้ำท่วมใหญ่พวกเราเด็ก ๆ เช่นข้าพเจ้าเห็นเป็นของสนุกสนานผิดธรรมดา พายเรือเล่นได้ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า โรงเรียนก็ต้องหยุดเป็นพิเศษ” แต่ความทรงจำที่แสนมีความสุขและสนุกสนานก็ไม่ได้มีตลอดเสมอไป เมื่อ พ.ศ. 2462 พระองค์ต้องเผชิญกับความทรงจำอันแสนโศกเศร้า “วันที่ 20 ตุลาคม 2462 เวลาข้าพเจ้ากำลังกินอาหารกลางวันอยู่ที่โรงเรียน มหาดเล็กของพ่อ คือ ปลัดกรมพ่วง ได้เดินเข้ามาหาข้าพเจ้าสีหน้าดูบึ้งตึงเครียดผิดธรรมดา มาบอกกับข้าพเจ้าว่า ทูลหม่อมรับสั่งให้เชิญฝ่าบาทเสด็จกลับวังเดี๋ยวนี้ ครั้นถึงวังปารุสก์ พอลงจากรถยนต์ ก็แลเห็นมหาดเล็กยืนหน้าบึ้งกันอยู่เป็นอันมาก และทุก ๆ คนมีผ้าพันแขนดำไว้ทุกข์ ไม่ต้องมีใครบอกข้าพเจ้าอย่างใด ก็เดาได้ทันทีว่า ข้าพเจ้าสิ้นย่าของข้าพเจ้าเสียแล้ว

 
...เช้าที่ 13 มิถุนายน ปีต่อมาข้าพเจ้าก็ถูกปลุกแต่มืด ให้ไปเข้าไปเฝ้าพ่อ พระอาการอ่อนเพลียมาก นาน ๆ ก็ได้สติ ชมกับข้าพเจ้าก็พยายามประสานพระหัตถ์ให้ดูเป็นประนม พยายามสอนท่านให้ท่องพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่านก็ท่องได้ แต่ประเดียวท่านก็เลอะ ครั้งหนึ่งท่านว่า หนู ๆ สมเด็จย่าทรงเรียกพ่อ ท่านยืน กวักพระหัตถ์อยู่นั่น จน 13.50 นาฬิกา นายแพทย์ก็แน่ใจว่าถึงที่สุดแล้ว เขาเอามือปิดพระเนตร ข้าพเจ้าก็กำพร้าพ่อตั้งแต่นั้น ...ในที่สุดวันพระราชทานเพลิงศพพ่อก็มาถึงคือวันที่ 28 กันยายน พระเมรุนั้นมีที่ท้องสนามหลวง”
 
ความทรงจำเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ได้จบลงเมื่อพระองค์เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และเริ่มความทรงจำบนถนนราชดำเนินในวัยหนุ่มเมื่อพระองค์เสด็จกลับมาเยี่ยมบ้านและโชว์รถแข่งของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ที่ทรงได้แชมป์มาจากเมืองนอก หลังเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง “ข้าพเจ้ายินดีที่ได้กลับไปอยู่ที่พระที่นั่งอุดรอีกครั้ง แต่ก็อดว้าเหว่ใจไม่ได้ เมื่อมองไปทางพระที่นั่งอัมพรอันเงียบสงัดว่างเปล่าอยู่ ไม่ครึกครื้นแน่นไปด้วยผู้คนดังสมัยที่ทูลหม่อมอาเสด็จอยู่ อีกข้อหนึ่งที่อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ก็คือเมื่อมองไปยังเสาบนยอดพระที่นั่งอนันตสมาคม แทนที่จะเห็นธงมหาราชดังเช่นเคยกลับเป็นธงไตรรงค์แห่งชาติ ...เมื่อข้าพเจ้าถึงไทยคราวนั้น เจ้าคุณพหลฯเป็นนายกรัฐมนตรี หลวงพิบูลสงครามเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หลวงประดิษฐมนูธรรมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ การที่คงจะมีผู้เอาใจใส่พีระกับข้าพเจ้าบ้างในเมืองไทย ข้าพเจ้าทราบดีอยู่แล้ว เพราะได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทย เห็นตื่นเต้นในการแข่งรถ แต่หาได้คิดได้ฝันเลยว่า  จะเป็นไปดั่งที่เราจะประสบจริง ๆ”
 
จะสังเกตได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์กับคณะราษฎรนั้นเป็นความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยพระองค์และพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชเสด็จไปเยี่ยมพระยาพหลพลพยุหเสนา พร้อมกับชมว่า “ เจ้าคุณพหลดูเป็นคนตรงไปตรงมา ใจคอดี ทั้งคุยสนุก ทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะบ่อย ๆ”

นอกจากนี้ยังมีการกล่าวชมจอมพล ป. พิบูลสงครามด้วยว่า “สังเกตเห็นเป็นคนหน้าตาสะสวย กิริยาสุภาพละมุนละม่อมอย่างที่สุด พูดช้า ๆ โดยน้ำเสียงไพเราะ”
 
นอกจากนี้พระองค์ทรงให้ความร่วมมือกับคณะราษฎรในการจัดงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานจัดประลองแข่งรถ “การประลองความเร็วและการแสดงของพีระได้ทำโดยเรียบร้อยเมื่อบ่าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม ท่านสกลฯ ทรงมีความคิดดีที่จัดที่นั่งบนป้อมมหากาฬให้คนดูผู้มีเกียรติได้นั่งดู ก็มีคนใหญ่คนโตเต็มหมด” และงานฉลองรัฐธรรมนูญ “อนึ่งคณะกรรมการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญขอให้ข้าพเจ้ายอมเอารถรอมิวรุสไปตั้งให้คนชมในงาน ข้าพเจ้าก็ยินยอม รถคันนั้นได้จัดตั้งให้คนดูมาเรื่อย  ๆ ที่บ้านท่าเตียน”
 
กล่าวได้ว่าพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เป็นเจ้านายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับคณะราษฎร พระองค์ทรงมีการปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับให้ความร่วมมือในงานกิจกรรมต่าง ๆ 
 
 
 
รัชนก พุทธสุขา
 
 
 

 

แหล่งอ้างอิง

 
จุลจักรพงษ์, พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า.  (2557).  เกิดวังปารุสก์.  พิมพ์ครั้งที่ 15.  กรุงเทพฯ: รีเวอร์บุ๊คส์.
 
 
 
แกลเลอรี่


ย้อนกลับ