‘ราชดำเนิน’ หาใช่ ‘สถานที่’ หากแต่เป็น ‘คน’ มีชีวิต มีลมหายใจ มีอายุยืนยาวถึง 121 ปี จึงได้รวบรวม เรียบเรียงเป็น ‘Timeline’ ให้เห็นว่า ‘ราชดำเนิน’ อยู่ในความรู้สึกและความทรงจำของคนไทยมาทุกยุคสมัยตลอดมาและตลอดไป…ราชดำเนินจึงใช่เพียง ‘My ราชดำเนิน’ หรือ ‘Your ราชดำเนิน’ ของคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็น ‘Our ราษฎร์ดำเนิน’ ของคนไทยทุกคน”
วรพรรณ พันธ์พัฒนกุล
ภัณฑารักษ์วัยเก๋า
“มิวเซียมสยาม เป็นเหมือนห้องทดลองของวงการพิพิธภัณฑ์ โดยไม่รอช้า ปลายปี 2561 เรารีบคว้าโจทย์ ‘สังคมสูงวัย’ ที่กำลังฮ็อต มาเป็นหัวข้อการวิจัย และการทำนิทรรศการหมุนเวียนชุดใหม่ของเรา ... ‘ล่องรอยราชดำเนิน : นิทรรศการผสานวัย’ ซึ่งมีภัณฑารักษ์วัยเก๋ามาช่วยเล่าและสร้างสรรค์ ถึง 16 ท่านนับว่าเป็นนิทรรศการที่เปลืองภัณฑารักษ์ที่สุดเท่าที่มิวเซียมเคยทำมา”
ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร
หนึ่งในภัณฑารักษ์นิทรรศการ ”ล่องรอยราชดำเนิน : นิทรรศการผสานวัย”
บทความนี้จะพูดถึงหนึ่งในภัณฑารักษ์วัยเก๋าของนิทรรศการ "ล่องรอย ราชดำเนิน : นิทรรศการผสานวัย" คือ “ป้าพรรณ” คุณวรพรรณ พันธ์พัฒนกุล
เหตุที่เรียกว่าป้าพรรณ ต้องออกตัวว่าเราไม่ได้เรียกคำนำหน้านามของภัณฑารักษ์วัยเก๋าเหมือนกันทุกคน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาแทนตัวเองว่าอย่างไร พี่บ้าง ป้าบ้าง อาจารย์บ้าง ลุงบ้าง เอาที่สบายใจ แล้วเราก็เรียกตามโดยที่ไม่ได้มีเรื่องของอายุเป็นเกณฑ์ ป้าพรรณเป็นผู้เข้าร่วมอบรมที่มาพร้อมกับประสบการณ์ทำงานเป็นอาสาสมัครที่ ยังแฮปปี้ YoungHappy เป็นกลุ่มเพื่อสังคม สร้างสรรค์กิจกรรมให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างสนุก มีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้ (คลิกเพื่อเข้าชมเพจ) ป้าพรรณจึงมีประสบการณ์ร่วมทำกิจกรรมสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุมาก่อน และสมัครเข้าร่วมโครงการภัณฑารักษ์วัยเก๋าเล่าเรื่องราชดำเนินกับมิวเซียมสยาม
ก่อนจะกล่าวว่าป้าพรรณคือใคร ซึ่งจะกล่าวต่อไปข้างหน้า ขอกล่าวถึง character (คุณลักษณะ) ของป้าพรรณ “ป้าพรรณเป็นคนชอบแจก” ในการทำงานร่วมกับป้าพรรณ ค้นพบว่า ป้าพรรณมีขนมสาหร่ายทอดกรอบโรยหน้าด้วยทุเรียนทอดมาแจกทีมงานเสมอ ๆ ตอนหลัง ๆ เป็นขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา นั่นก็คือ character (คุณลักษณะ) การแจกของป้าพรรณ วันนี้เราเลยเอาผลงานของป้าพรรณมาแจกเสียเลย…. นั่นคือ “ไทม์ไลน์” (Timelime) ถนนราชดำเนินในระยะเวลา 121 ที่ป้าพรรณทำขึ้นในช่วงเวลาที่ร่วมงานกับมิวเซียมสยาม ซึ่งป้าพรรณเคยกล่าวไว้ว่า
“ความชอบอ่าน ชอบลงพื้นที่ เราเป็นคนชอบเขียน เลยชอบทำไทม์ไลน์”
ก็ในเมื่อป้าพรรณชอบทำไทม์ไลน์ต่าง ๆ บนโลกใบนี้ เราเลยมาทำไทม์ไลน์ป้าพรรณกันบ้าง ^ ^ (ก่อนจะรับของแจกจากป้าพรรณ)
พ.ศ. 2500 เกิดที่จังหวัดพะเยา
พ.ศ. 2517 เข้ากรุงเทพและเริ่มเห็นถนนราชดำเนิน “มาอยู่กรุงเทพ ปี 2517 มาสอบเข้าเตรียมอุดม แต่ไม่ติด เลยมาติดที่เบญจมราชาลัย และใกล้บ้าน เรียนชั้น มศ.4 อาศัยอยู่วิสุทธิกษัตริย์ หลังโรงแรม 888 อยู่กับน้า 2 ปี อายุ 17”
พ.ศ. 2519 เข้าเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ โดยย้ายไปอยู่หอใน เป็นที่มาที่ป้าพรรณกลายเป็นชาว “หอซีมะโด่ง” ความที่เคยเป็นชาวหอนี้เองที่ภายหลังป้าพรรณในฐานะศิษย์เก่าก็ได้กลับมาทำหนังสือเกี่ยวกับหอพักแห่งนี้ อีกทั้งความทรงจำของป้าพรรณในช่วงเวลาที่อยู่หอในนั้นดันมีความทรงจำไปคาบเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับถนนราชดำเนินนั่นคือ ธรรมศาสตร์ และสนามหลวง
“ตอน อายุ19 รูมเมทเรียนรัฐศาสตร์ มาร่วมด้วย [ร่วมชุมนุมที่ธรรมาศาสตร์] แล้วหายไป ช่วงนั้นเป็นเสาร์อาทิตย์ ที่คณะมีรับน้องที่เขาใหญ่ ญาติโทรหา แล้วไม่ได้รับ ญาติเลยมาหา เลยรู้ว่าเราไปรับน้อง ตอนเรียนที่พะเยาเป็นคนพูดเก่ง ที่บ้านเลยกังวล คิดว่าเราอยู่ในนั้น เลยให้คนมาตาม”
“รูมเมทไปหลายวันแล้ว ไป ๆ มา ๆ แล้ววันนั้นมีการปราบปราม เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นรูมเมทกลับมาหลังจากหายไปหลายวัน แต่เขาไม่เล่าอะไรให้ฟัง เพื่อนที่คณะก็หาย หายเข้าป่าไปเลยก็มี เพื่อนที่หอก็หายไปเยอะ”
พ.ศ. 2560 ป้าพรรณทำไทม์ไลน์ซีมะโด่ง
จากไทม์ไลน์ “100 ปี ซีมะโด่ง” ถึง “121 ปีราชดำเนิน”
ป้าพรรณ เคยสังเคราะห์เนื้อหาและข้อมูลออกมาเป็นไทม์ไลน์ ประจวบเหมาะกับนิทรรศการของมิวเซียมสยามบางนิทรรศการโดยปกติที่ผ่านมา ในโซนแรก ๆ ก็เปิดด้วยไทม์ไลน์อยู่แล้ว เลยเป็นจุดเด่นของป้าพรรณที่จะดึงมาช่วยในส่วนนี้ได้ดี
หนังสือที่ป้าพรรณเคยร่วมทำคือ หนังสือ “รฤก 100 ปี ซีมะโด่ง” ของสมาคมนิสิตเก่าหอพักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ป้าพรรณมีส่วนร่วมในกองบรรณาธิการร่วมกับกลุ่มศิษย์เก่าหอพักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจากบทบรรณาธิการระบุว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการทำหนังสือโดยตรง มาช่วยกันค้นคว้าข้อมูล และทำหนังสือประวัติหอพักขึ้นมา ซึ่งหน้าแรก ๆ ของหนังสือก็ทำไทม์ไลน์
ภาพไทม์ไลน์ของหนังสือ ซีมะโด่ง ที่ระลึกหอพักนิสิตจุฬา
…. และที่สำคัญ ป้าพรรณก็เอาหนังสือซีมะโด่ง (ที่มีไทม์ไลน์) มาแจกพวกเราอีกนั่นแหละ ทำให้เรารู้ว่าป้าพรรณชอบทำไทม์ไลน์

พ.ศ. 2562 ป้าพรรณในค่าย “ภัณฑารักษ์วัยเก๋า เล่าเรื่องราชดำเนิน”
โครงการ “ภัณฑารักษ์วัยเก๋าเล่าเรื่องราชดำเนิน” โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 และสิ้นสุดวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ในช่วงเวลาที่อบรม ป้าพรรณเดินเข้ามาหาเราและพูดตั้งแต่แรก ๆ ว่า “อยากแจก” โดยปกติป้าพรรณมักจะเข้าร่วมอบรมและเป็นคนชอบจดบันทึก เมื่อบันทึกแล้วป้าพรรณก็มักจะพิมพ์แจกผู้เข้าร่วมอบรมคนอื่น ๆ การได้แจกเนื้อหาอะไรบางอย่างจากสิ่งที่ป้าพรรณได้จากการอบรมจึงเป็นวัตถุประสงค์ส่วนตัวของป้าพรรณ
ข้อมูลที่ป้าพรรณสั่งสมมาเพื่อนำไปทำไทม์ไลน์นั้น ได้มาจากการจดบันทึกการบรรยายตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมอบรม เช่น การบรรยายในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เรื่อง “ราชดำเนิน” โดย ศ.ดร. ชาตรี ประกิตนนทการ, และวันเดียวกันก็ลงพื้นที่ด้วยการ City Tour สถานที่บนราชดำเนิน, ลงพื้นที่ชุมชนใกล้เคียงราชดำเนิน ในวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้น เป็นข้อมูลประวัติศาสตร์ระหว่างทางที่ป้าพรรณค่อย ๆ จดมา และยังค้นคว้าเพิ่มเติม โดยมีกลุ่มนักเรียนประวัติศาสตร์คอยช่วยเหลือ

และเมื่อผ่านการอบรมไปป้าพรรณก็รับไอเดียต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกับคนต่างวัย ไม่ว่าจะเป็นการทำกราฟิกไทม์ไลน์ขึ้นมาให้อ่านง่าย หรือการนำเกมเข้ามาช่วยให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับไทม์ไลน์ของป้าพรรณ ป้าพรรณจึงต้องทำงานร่วมกับทีมวัยรุ่นคนอื่น ๆ และทำเกมร่วมกับ กฤษตฤณ วีระฉันทะชาติ เพราะเป็นคนที่เคยมีประสบการทำบอร์ดเกมมาก่อน จนพัฒนาเป็นเกมที่เหมือนการทดสอบหลังชม

โดยที่โจทย์ของการแจกก็ยังไม่ทิ้ง การแจกในรูปแบบที่ป้าพรรณและกลุ่มวัยรุ่นคิดร่วมกันคือแจกไทม์ไลน์ในรูปแบบรหัสคิวอาร์ (QR code) (ที่ท่านจะได้รับรหัสคิวอาร์ที่แนบมาท้ายบทความนี้นั่นแหละ) และอีกอย่างที่เป็นความปรารถนาของป้าพรรณเองคือการแจกในรูปแบบของหนังสือเล่มเล็ก ป้าพรรณเรียบเรียงเองและให้เด็ก ๆ ช่วยตรวจทาน และไม่ขออะไรมาก ขอให้ถ่ายเอกสาร ให้ป้าพรรณได้แจกให้ผู้ชมสูงวัยแค่นี้ป้าก็ "ฟิน" ส่วนผู้ชมเด็ก ๆ ก็สแกนรหัสคิวอาร์ (QR code) ไป


เมื่อถึงวันจัดแสดงนิทรรศการ "My ราชดำเนิน" (ซึ่งเป็นเหมือนการประมวลผลท้ายเวิร์กชอป เราเลือกที่จะจัดในห้องสมุดของมิวเซียมสยาม) นิทรรศการของป้าพรรณประกอบด้วยเกมที่ป้าพรรณและทีมวัยรุ่นช่วยกันคิดและผลิตจนสำเร็จ เดิมที คนนำเสนอเกมจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ช่วยสุมหัวกับป้าพรรณ แต่ในเมื่อทีมงานมีจำนวนจำกัดจึงต้องวนไปช่วยภัณฑารักษ์วัยเก๋าท่านอื่น ป้าพรรณจึงต้องรับบทเป็นผู้นำเสนอเกมเองแม้จะบ่น ๆ ว่าไม่ใช่วิถีที่ถนัด แต่ท้ายที่สุดก็เป็นป้าพรรณนั่นแหละ ที่เรียกแขกเข้าซุ้มของตนเองด้วยการนำเกมมาหลอกล่อ และอธิบายเกมด้วยความคล่องแคล่ว

พ.ศ. 2563 ป้าพรรณ ทำนิทรรศการ “ล่องรอย ราชดำเนิน : นิทรรศการผสานวัย”
ในขั้นตอนการทำนิทรรศการ เรามัก “สุมหัว” อันเป็นศัพท์ที่ใช้แทนการประชุมระดมความเห็นร่วมกัน ใช้กันแพร่หลาย รวมถึงใน "ไลน์กรุ๊ป" ภัณฑารักษ์วัยเก๋า เช่น “นัดกันไปสุมหัว” “พี่ขอไปสุมหัวด้วยคน”
ในกระบวนการนี้ ป้าพรรณ รวมถึงภัณฑารักษ์วัยเก๋าคนอื่น ๆ และทีมทำนิทรรศการ มีโจทย์ร่วมกันที่จะต้องนำนิทรรศการขนาดย่อม "My ราชดำเนิน" จากการอมรมเชิงปฏิบัติการ "ภัณฑารักษ์วัยเก๋าเล่าเรื่องราชดำเนิน" มาพัฒนาต่อ หรือคิดใหม่เป็นอีกชิ้นไปเลยก็ย่อมได้ถ้ามีแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ระหว่างทาง
ในส่วนของป้าพรรณ ได้นำงานวิจัยที่เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับนิทรรศการนี้ (ซึ่งจัดทำโดย ศ.ดร. ชาตรี ประกิตนนทการ) มาสังเคราะห์ร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดกันว่าควรจะเพิ่มข้อมูลอะไรบ้าง ทีมทำนิทรรศการของมิวเซียมสยามได้ค้นคว้าข้อมูลมาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยป้าพรรณได้ช่วยสกัดและสร้างประเด็นธีมของเนื้อหา รวมถึงได้ช่วยคัดเลือกสถานที่บนถนนราชดำเนินที่จะนำมาขยายความในนิทรรศการ (เราตั้งชื่อให้ว่า "แลนด์มาร์ค" ซึ่งมาจากเกมออนไลน์ "Monopoly" ที่กำลังฮิตในขณะนั้น)
การเลือก "แลนด์มาร์ค" เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเรากำลังเล่าเรื่องราวเล็ก ๆ ที่ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ของถนนราชดำเนินทั้งสาย ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยป้าพรรณเสนอให้เลือกแลนด์มาร์คที่บรรจุความทรงจำร่วมของผู้คนในสังคมไว้
“ส่วนความทรงจำคนเล็กคนน้อยจะไปสอดแทรกในโซนอื่น ๆ เอาแค่อันเด่น ๆ มันยากตรงที่ว่าสถานที่ในราชดำเนินมีมาก เหตุการณ์ก็มาก แค่สนามหลวงก็เยอะแล้ว” (ในนิทรรการแลนมาร์คสนามหลวงจึงมีไทม์ไลน์เป็นของตนเอง) ดูภาพประกอบด้านล่าง

งานของป้าพรรณยังไม่แล้วล่วง ป้าพรรณกับทีมงานยังคิดล่วงหน้าไปอีกว่า ไทม์ไลน์นี้ควรจะต้องเป็นแอนิเมชั่นโซนเปิดนิทรรศการด้วย จึงได้ร่างแบบไว้ (ดังภาพด้านล่าง) เผื่อว่า เมื่อมิวเซียมสยามได้ผู้รับจ้างออกแบบและก่อสร้าง ก็จะได้สามารถดำเนินการต่อได้ทันที


ปรากฏว่า แบบที่ร่างไว้นั้น ... ไม่ได้ใช้ !!
ในช่วงพัฒนาแบบ ทีมคิดว่า แอนิเมชั่นโซนเปิดน่าจะอธิบายแนวคิด contested space มากกว่าเรื่องไทม์ไลน์ เพราะเป็นสิ่งที่เข้าใจยากกว่า และเราก็ได้ธีมที่เราตื่นเต้นกันมากที่คิดออกมาได้ นั่นคือ ถนนราชดำเนิน คือ เวที(มวย)ราชดำเนิน บทแอนิเมชั่นก็เขียนสไตล์พากย์มวย (มันส์มาก รีบมาดูนะ)
แต่ ไทม์ไลน์ ก็สำคัญ
ทีมจึงมอบผนังที่ใหญ่ที่สุดในนิทรรศการยาว 5 เมตร สำหรับไทม์ไลน์ของป้าพรรณ (จ้า)

เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ทั้งวีดิทัศน์ (แอนิเมชั่น) ที่ฉายบนเวทีมวย กับไทม์ไลน์ทำหน้าที่ร่วมกัน คือนำเสนอประวัติศาสตร์ถนนราชดำเนินในช่วงเวลาที่ยาวมาก แต่ก็แบ่งกันทำงาน คือ วีดิทัศน์บนเวทีมวยเล่าแบบมีธีม และทำหน้าที่นำเสนอคอนเส็ปต์ในรูปแบบภาพและเสียง ว่า ราชดำเนินเป็นพื้นที่แห่งการ "ประชัน" แนวคิด ระหว่าง "ความเป็นสมัยใหม่" (modernity) ที่เพิ่งนำเข้ามากับแนวคิดเดิมที่ดำรงอยู่ก่อน ส่วนไทม์ไลน์บนผนังทำหน้าที่บอกข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาด้วยตัวอักษร ว่าปีนั้น ๆ เกิดอะไร ทั้งสองส่วนนี้ได้ช่วยกันปูพื้นฐานให้ผู้ชมก่อนรับชมนิทรรศการในโซนถัดไป

ป้าพรรณยังไม่เคยลืมเรื่อง “การแจก” นำกลับมาทบทวนตลอดการ “สุมหัว”
“สมมุติต้องมาพิมพ์แจกผู้ชม เราไม่ควรทำให้แผ่นใหญ่เกิน ไม่อย่างนั้นคนก็เอาไปกองที่บ้าน เอาไปทิ้งเสียดาย ของแจก ณ ปัจจุบันนี้ก็เป็นแบบนี้”
ไทม์ไลน์ป้าพรรณได้รับการแจกในรูปแบบรหัสคิวอาร์ (QR code) แล้ว ซึ่งอยู่ในกล่อง prototype ของป้าพรรณ โซนภัณฑารักษ์วัยเก๋า
แจกหนังสือเล่มเล็กป้าพรรณก็เคยแจกแล้ว...วันนี้เลยลองแจกบนโลกโซเชียลกันบ้าง จะได้สมดั่งใจ (ปรารถนา) ป้าพรรณ และก็จะได้ไม่มีใครนำไปทิ้งอย่างที่ป้าพรรณกังวล คลิกที่นี่ รับของแจกจากป้าพรรณ
...งืม ป้าพรรณทำไทม์ไลน์ทำไมหนักหนา ? (เรียกเก๋ ๆ ว่าถอดบทเรียน)
ไทม์ไลน์เป็นเหมือนบันทึกช่วยจำ สิ่งที่นักเรียนประวัติศาสตร์มักทำกันคือนำเวลาและเหตุการณ์มากรอกลง Microsoft Excel
ซึ่งการทำไทม์ไลน์เป็นบันทึกช่วยจำ และสามารถสร้าง "พล็อตเรื่อง" (plot) ได้ เพราะเราอาจจะเห็นข้อมูลบางอย่าง ซ้ำ ๆ หรือเกิดความคิดรวบยอดนำมาสร้างเป็นธีม ซึ่งไทม์ไลน์ของป้าพรรณก็เป็นเช่นนั้น คือ มีการจัดหมวดหมู่ข้อมูลจนสามารถแบ่งราชดำเนินออกเป็นยุคสมัยต่าง ๆ ได้ โดยในแต่ละยุคก็มีแก่นเรื่องเฉพาะของตนเอง จากเดิมที่ป้าพรรณกังวลว่า ไม่รู้จะเล่าอะไรดี และมักออกตัวอยู่บ่อย ๆ ว่าไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับราชดำเนินเท่ากับภัณฑารักษ์วัยเก๋าท่านอื่น ๆ
"ไม่ค่อยได้เข้าไปแถวราชดำเนิน นั่งรถไปเรียนเท่านั้น ขึ้นรถเมล์หน้าวัดตรีทศเทพฯ มาลงเสาชิงช้า แล้วไปพานถม"
แต่การจดบันทึกระหว่างการร่วมกิจกรรรมค่าย “ภัณฑารักษ์วัยเก๋า เล่าราชดำเนิน” รวมถึงการประชุมที่ภัณฑารักษ์วัยเก๋ามักจะนิยามกันว่า “สุมหัว” ป้าพรรณที่เป็นคนชอบจด ก็จะจดข้อมูลต่าง ๆ ที่แต่ละคนเล่า แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นไทม์ไลน์ ทำลาย/ทำไร เพื่อที่จะสร้างพล็อตที่มีช่วงเวลาขนาดยาว 121 ปี ว่า “ใคร” “ทำ (อะ) ไร” บนราชดำเนินบ้าง และแบ่งหมวดหมู่เหตุการณ์เป็นช่วงเวลาพร้อมทั้งตั้งชื่อตามสิ่งที่รวบยอดได้จากไทม์ไลน์ จัดหมวดหมู่ได้เป็น 5 ยุค
ไทม์ไลน์ เป็นทั้งผลลัพธ์และเป็นทั้งเครื่องมือในเวลาเดียวกัน
ในนิทรรศการ ไทม์ไลน์ ทำหน้าที่ปูพื้นฐานข้อมูลให้กับผู้ชมนิทรรศการตั้งแต่แรกเข้า ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านั้น ไทม์ไลน์ ก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูล ทำให้ป้าพรรณที่แต่เดิมไม่รู้ว่าจะเล่าอะไร สามารถเล่าเรื่องออกมาได้อย่างมีธีมที่น่าสนใจ


รัชนก พุทธสุขา
อ้างอิง
สมาคมนิสิตเก่าหอพักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2560). รฤก ๑๐๐ ปี ซีมะโด่ง. กรุงเทพฯ:ไม่ปรากฏ.
สวัสดิ์ จงกล. (2552). ซีมะโด่งเยือนจุฬาฯ. หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563. จาก อ่านออนไลน์