พระราชนิยมจีนในพระราชวังดุสิต
เครื่องถ้วยลายคราม หรือเครื่องเซรามิกส์แบบพอร์ซเลน (porcelain) ต้นกำเนิดในประเทศจีน มีลักษณะเป็นสีขาวใสละเอียดคล้ายเปลือกหอย สวยงามจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมทั้งไทยด้วย โดยเริ่มแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ 4 แต่เครื่องถ้วยลายครามจีนที่บรรดานักสะสมนิยมและถือว่าเป็นชนิดเอก เป็นของดีมีราคานั้นผลิตจากแคว้นกังไส และเป็นฝีมือการเขียนลายของช่างสมัยราชวงศ์เหม็ง ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “เครื่องกังไส” โดยสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงที่เฟื่องฟู ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ชนชั้นสูงของไทยถึงขั้นมีการจัดประกวดเครื่องโต๊ะ (โต๊ะบูชาที่ตกแต่งจัดชุดด้วยเครื่องถ้วยลายคราม) และถ้วยปั้นอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ยังเป็นพระราชนิยมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานเก็บรวบรวมสะสมเครื่องถ้วยกังไส อีกทั้งยังทรงทรงศึกษาค้นคว้าและพระราชนิพนธ์ว่าด้วยลายจีนซึ่งเขียนเครื่องถ้วยกระเบื้องกังไส กล่าวถึงที่มาของลวดลายที่ปรากฏบนเครื่องถ่วย ดังนี้
“ในลายซึ่งนักปราชญ์ได้ผูกขึ้นเหล่านั้น ย่อมประกอบด้วยนิมิตมงคลใน 3 อย่าง คือ ฮกหนี่ง ลกหนึ่ง ซิ่วหนึ่ง เป็นพื้นทั่วไปโดยมาก นอกจาก ฮก ลก ซิ่ว มีมงคลอื่นเจือปนอีกนั้น คือ ในกระบวนโป๊ยเซียน คือ เทวดาหรือผู้สำเร็จทั้งแปด …… ผู้ซึ่งชอบตรวจดูลายของจีนที่เขียนในภาชนะต่างๆ ควรจะสังเกตดูตามแม่ลายหรือที่ตั้งแห่งนิมิตมงคล ซึ่งเขาผูกไว้”
ซึ่งลวดลายทั้งหลายที่นักปราชญ์ชาวจีนผูกขึ้นที่ปรากฏอยู่บนเครื่องถ้วยเป็นการแสดงสวัสดิมงคล รวมอยู่ใน ฮก ลก ซิ่ว ถือเป็นการอำนวยพร ได้แก่ วาสนา (ฮก) โภคสมบัติและบริวารสมบัติ (ลก) และอายุยืน (ซิ่ว) ซึ่งพรทั้ง 3 ประการนี้ย่อมเป็นที่ปรารถนาของทุกคน
แม้ว่าฮก ลก ซิ่วจะอยู่ในรูปแบบใดก็ได้นับไม่ถ้วน พระองค์ทรงมีพระบรมราชาธิบายว่า “ควรสังเกตไว้เป็นหลักว่า ถ้าเครื่องหมายสำหรับ ฮก แล้ว คงจะเป็นสิ่งซึ่งวิเศษหายาก มีอานุภาพมาก มีสง่า ฤๅรุ่งเรืองมากเป็นเกณฑ์ ถ้า ลก แล้ว มักจะเป็นสิ่งซึ่งมากโดยประมาณนับ ฤๅเป็นพืชพันธุแพร่หลายเป็นเครื่องเย็นชุ่มชื่น เป็นเครื่องมั่งคั่งสมบูรณ์เป็นเกณฑ์ ซิ่ว คงจะเป็นเครื่องที่ทนทานถาวร ฤๅยืดยาวเป็นเกณฑ์ เมื่อสังเกตตามทางเช่นนี้ คงจะเห็นได้ว่าลายอันนี้ ผู้เขียนตั้งใจจะให้เป็นนิมิตเครื่องหมายมงคลอันใด”และทรงเทียบ ฮก ลก ซิ่วอย่างใหม่ ดังนี้
“จะเห็นชอบว่าใช้ได้อยู่ คือ ถ้าจะถือเอาดอกกุหลาบ เป็น ฮก เพราะเป็นดอกไม้ที่งามรุ่งเรืองในเมืองเรา ดอกบานชื่น เป็น ลก เพราะเหตุมีเกสรแลเมล็ดมาก ดอกบานไม่รู้โรย เป็น ซิ่ว เพราะเหตุที่เป็นดอกไม้ทนทานเช่นนี้ ก็หวังใจว่าจะเข้าภูมิแบบลาย ฮก ลก ซิ่ว ได้”
พระราชนิยมของพระองค์ ได้กลายมาเป็นชื่อนามพระราชทานแก่สถานที่ต่าง ๆ ในพระราชวังดุสิต กล่าวคือ ในการตัดถนนเพื่อแสดงขอบเขตพระราชฐาน พระองค์ทรงพระราชทานนามถนนที่ล้วนแต่มีชื่อเป็นลายเครื่องถ้วย ได้แก่ ถนนซางฮี้ ถนนซิ่ว ถนนดวงตะวันใน และถนนที่แบ่งเขตพระราชฐานระหว่างสวนดุสิตและสวนสุนันทา เขตพระราชฐานชั้นใน ได้แก่ ถนนดวงดาวใต้ ถนนดวงดาวใน ดวงดาวเหนือ อีกทั้งยังมีถนนฮก ถนนลก ถนนส้มมือ ถนนทับทิม ถนนพุดตาน ถนนเบญมาศ ถนนใบพร ถนนคอเสื้อ รวม 48 สาย
อีกทั้งภายในพระราชวังสวนดุสิตรัชกาลที่ 5 ทรงแบ่งที่ดินพระราชทานให้แก่พระมเหสี พระราชเทวี เจ้านายฝ่ายใน โปรดเกล้าฯ ให้เรียกที่ดินแต่ละแปลง “สวน” และพระราชทานชื่อตามชื่อลายเครื่องถ้วยลายครามที่นิยมสะสมในสมัยนั้น เช่น สวนหงส์ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา) เมื่อพระตำหนักสร้างแล้วเสร็จพระองค์จึงพระราชทานนามว่า “พระตำหนักวสวนหงส์" เป็นต้น
สถานที่ต่าง ๆ ภายในพระราชวังดุสิตที่มีชื่อมาจากลวดลายเครื่องถ้วยจีน อาจยกมาบางส่วนได้ดังนี้
สถานที่ที่สื่อถึงวาสนา ได้แก่ ถนนฮก ถนนดวงตะวัน ถนนส้มมือ ถนนพุดตาน ถนนคอเสื้อ (เขียนลายเป็นค้างคาวต่อๆ กันคล้ายลายกระจัง) สวนพุดตาน
สถานที่ที่สื่อถึง โภคสมบัติและบริวารสมบัติ ได้แก่ ถนนลก ถนนทับทิม ถนนเบญจมาศ (หรือถนนราชดำเนินนอก ในปัจจุบัน) ถนนราชวัต (เขียนลายเป็นลูกคลื่น แต่ถูกบีบจนคล้ายรั้ว) ถนนดวงเดือน ถนนเต๊ก (กวางดาว) สวนองุ่น (องุ่นเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง)
สถานที่ที่สื่อถึง อายุยืนยาว ความยั่งยืน ได้แก่ ถนนซิ่ว ถนนดวงดาว ถนนโถ (ลูกท้อ-ลูกโถ) เกาะสน (ต้นสน) ถนนประแจจีน (เขียนลายเป็นเส้นๆ แล้ววกกลับ)
และยังมีสถานที่ที่สื่อถึงความเป็นสิริมงคลตามคติจีน ที่มักนำมาเขียนลายบนเครื่องถ้วยด้วยเช่นกัน ซี่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงจำแนกลายไว้เป็น 5 หมวด คือ
หมวดลายรูปคน เช่น ถนนภาพระบำ (เทวดาชายหญิง) ประตูเล่าฮั่น (อรหันต์ 18 องค์) สวนโป๊ยเซียนเป็นพระตำหนักของเจ้าจอมมารดาโหมด เป็นต้น
หมวดลายรูปสัตว์ เช่น ถนนมังกรรำ ประตูโลโต (อูฐ) ประตูกิเลน ประตูปลา ประตูไก่ฟ้า เป็นต้น
หมวดพรรณไม้ เช่น สวนสี่ฤดูเป็นพระตำหนักของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สวนบัวเป็นพระตำหนักของพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ สวนผักชีเข้มเป็นพระตำหนักของพระองค์เจ้าศศิพงษ์ประไพ (ลายผักชีเข้ม จีนเรียกว่าลายต้าเหมียว) เป็นต้น
หมวดรูปสิ่งของ เช่น ประตูหนังสือเล็ก ประตูลิขิต ถนนลิขิต สวนหนังสือเล็กเป็นพระตำหนักของพระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ สวนหนังสือใหญ่เป็นพระตำหนักของพระองค์บีเอตริศภัทรายุวดี เป็นต้น
หมวดภูมิสถาน เช่น สวนเขาไม้เป็นพระตำหนักของพระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี สวนฝรั่งกังไสเป็นพระตำหนักของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี เป็นต้น
จากพระราชนิยมจีนที่ทรงโปรดการสะสมเครื่องถ้วยกังไส และทรงศึกษาอย่างลึกซึ้งรู้ถึงที่มาของลวดลายต่างๆ ที่ปรากฏบนเครื่องถ้วย และเมื่อพระองค์ทรงสร้างพระราชวังดุสิต จึงได้พระราชทานนามที่เป็นสวัสดิมงคล อันมีที่มาจากชื่อลวดลายเครื่องถ้วยจีน เช่น การพระราชทานชื่อ พระตำหนัก (สวน) ที่พระองค์ทรงแบ่งที่ดินภายในพระราชวังดุสิตเพื่อเป็นการอวยพรให้แก่พระมเหสีเทวี เจ้านายฝ่ายในที่เป็นเจ้าของพระตำหนักนั้น ๆ เกิดความสุขสวัสดีได้รับสิริมงคลตามมงคลนามนั้น ตลอดจนพระราชทานนามถนน ประตูเพื่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่มีอำนาจวาสนา ร่ำรวยทรัพย์และบริวาร ตลอดจนมีอายุยืนยาวสุขภาพแข็งแรง
สรวิชญ์ ฤทธิจรูญโรจน์
บรรณานุกรม
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. ตำนานเรื่องเครื่องโต๊ะและถ้วยปั้น. เข้าถึงจาก
รัชดา โชติพานิช. (2558). ตรีพิพิธพร สวัสดิมงคลในพระราชวังดุสิต รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. วารสารไทยศึกษา. เข้าถึงจาก