Museum Core
อัศวินวิทยาคม: กว่าจะเป็นอัศวินยุคกลางได้ต้องทำอะไรบ้าง?
Museum Core
14 มิ.ย. 64 15K
.

ผู้เขียน : Nerd with me

          ภาพอัศวินชุดเกราะเหล็กขี่ม้าตัวใหญ่โตคงเป็นอะไรที่ติดตาคนหลาย ๆ คนเวลาได้ยินคำว่า “ยุคกลาง” กัน แถมยังโดนผูกกับภาพวาดจากนิทานนิยายต่าง ๆ มากมาย ปราบมังกรเอย ตามหาอาวุธในตำนานเอย ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่อัศวินทำกันทั้งนั้น ซึ่งภาพจะดูสตรองเช่นนี้ก็ไม่แปลก ไม่ผิดเลยที่จะบอกว่าพวกเขาคือยอดทหารในยุคนั้น เป็นหน่วยทะลวงฟันอาวุธหนักที่สามารถชี้เป็นชี้ตายศึกได้ในจังหวะที่ถูกต้อง

 

กว่าจะมาเป็นอัศวินคนหนึ่งต้องทำอะไรกันบ้าง?

  1. เริ่มจากการเป็นเพจ (Page) หรือเด็กติดตามอัศวิน ช่วงอายุ 7-13 ปี
    เพจ หรือเด็กที่มีหน้าที่ติดตามอัศวินเพื่อศึกษาพื้นฐานทั่วไปของชีวิตติดชุดเกราะ โดยจะตามไปอยู่ในที่พักหรือปราสาทของผู้ฝึกเลย ซึ่งการศึกษาเรียนรู้ก็ไม่ได้มีแค่การรบ แต่ยังรวมถึงการเลี้ยงม้าและการเข้าสังคมด้วย และต้องฝึกฝนการใช้อาวุธไม้เป็นหลัก

  2. เกิดมาในตระกูลอัศวินหรือสนิทชิดเชื้อกับตระกูลอัศวิน
    เสมือนเด็กฝึกงานในออฟฟิศสมัยนี้ การจะเป็นอัศวินได้ก็เริ่มจากการดูตัวอย่างจากอัศวินนี่แหละ ซึ่งการฝากฝังมักจะได้จากการเป็นสมาชิกในครอบครัวอัศวินอยู่แล้ว หรือเป็นลูกหลานของผู้มีอันจะกิน เช่น พ่อค้า ข้าราชการ หรือเจ้าของที่ดิน ซึ่งเรื่องเงินนี้ก็จะสัมพันธ์กับทรัพยากรที่คนหนึ่งคนต้องใช้จนกว่าจะได้เป็นอัศวินได้ และผลประโยชน์รายได้สำหรับตัวอัศวินผู้ฝึกสอนเองด้วย

  3. ขยับขึ้นไปเป็นอัศวินฝึกหัด สไควร์ (Squire) ตอนอายุ 14-21ปี
    ในขั้นนี้ ว่าที่อัศวินจะเริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่นแล้วและมีหน้าที่ที่ต้องแอคทีฟขึ้นมาก เพราะจะเริ่มฝึกใช้อาวุธจริง ดูแลอาวุธ และติดตามนายไปสนามรบจริง  หนึ่งในทักษะการรบที่สำคัญของอัศวินคือการใช้หอกและโล่ห์บนหลังม้าพร้อมกัน นั่นหมายความว่าสไควร์หนุ่มก็ต้องคุ้นชินกับการขี่ม้าในระดับหนึ่ง และเมื่อต้องลงสมรภูมิแล้ว อีกความรับผิดชอบหนึ่งของพวกเขาคือต้องมีความคล่องแคล่วกับการใช้อาวุธทั่วไปในสถานการณ์จริงด้วย นอกเหนือไปจากนั้นยังต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของโลกอัศวินด้วย เช่น ระบบเกียรติอัศวิน (Chivalric Code) และการปฏิบัติตัวกับอิสตรี

  4. ทำพิธีรับนาม (Dubbing) กลายมาเป็นอัศวินเต็มตัว ตอนอายุ 21ปี
    เมื่อมาถึงจุดนี้ หากไม่โดนไล่กลับบ้านหรือเสียชีวิตไปก่อน อัศวินฝึกหัดจะได้เข้าสู่พิธีการรับนามเพื่อเป็นอัศวินเต็มตัว ในพิธีนี้ ว่าที่อัศวินจะอดอาหาร ทำพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ ก่อนจะคุกเข่าให้ผู้เป็นนายเอาดาบมาวางแตะบนบ่าเพื่อแต่งตั้งตำแหน่งอัศวินใหม่ เมื่อจบพิธี โลกก็จะมีอัศวินเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งนาย

 

แหล่งที่มาภาพ: British Museum

 

 

กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ราคาที่ต้องเสียไม่ถูกเลย

          ข้อจำกัดหลักก่อนจะถึงขั้นตอนรับนามก็คือการลงทุนไม่ใช่น้อย แม้พิธีกรรมต่างๆ จะไม่มีอะไรมาก หากแต่การเป็นอัศวิน หรือคลังแสงมนุษย์บนหลังม้า ต้องมีเงินทุนมหาศาลเพื่อใช้ซื้อชุดเกราะเต็มตัว (plate armor) ชุดโซ่ (chainmail) รวมไปจนถึงอาวุธต่าง ๆ และขาดไม่ได้เลยก็คือม้าที่เปรียบได้กับรถยนต์ในยุคสมัยนี้  คงไม่มีใครเอารถแทรกเตอร์มาขับไปออฟฟิศ ใช้รถสปอร์ตขนของย้ายบ้าน หรือเช่ารถซาเล้งแล้วไปขึ้นทางด่วน แต่อัศวินต้องมีม้าคละแบบหลายตัว มีทั้งม้าศึกที่แบกน้ำหนักได้เยอะ วิ่งเร็วและฉลาด และม้าทั่วไปสำหรับขี่ไปมาก่อนจะสวมเกราะ ราคาม้าก็จะถูกแพงไปตามขนาด (แต่รวมแล้วแพงโหด) และอื่นๆ อีกก็เป็นค่าอุปกรณ์ ใครคุมค่าใช้จ่ายไม่ดี บัญชีระเบิดกันได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังต้องพูดถึงค่าใช้จ่ายทางสังคมที่จะตามมาด้วย สิ่งที่เห็นได้ง่ายเป็นอีกหนึ่งมิติของอัศวินคือชีวิตในวงสังคมชั้นสูงที่คาดหวังให้อัศวินใช้จ่ายตามฐานะด้วย ทำให้พิธีรับนามกลายเป็นขั้นตอนสำคัญของชีวิตอัศวินหนุ่มที่ต้องมีการเชิญแขกเหรื่อมาร่วมงาน และมีการจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ (ไม่แตกต่างจากงานเลี้ยงรับปริญญาสมัยนี้) รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายที่อาจดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในบรรดาท่านลอร์ดของเกาะอังกฤษว่าจะให้การอุปถัมภ์อัศวินในสังกัดด้วยการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในงานแต่งให้กับลูกสาวคนโต และพิธีรับนามลูกชายคนโตของอัศวินคนนั้น แสดงให้เห็นว่าบทบาทและสถานภาพของอัศวินค่อนข้างมีความสำคัญมากในชีวิตของชนชั้นสูง

 

แหล่งที่มาภาพ: British Museum

 

           สรุปแล้ว โดยผิวเผิน ชีวิตของอัศวินจะเป็นการฝึกรบและเข้าสังคมตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยหนุ่ม ไม่ต่างจากการเรียนในชั้นประถมจนถึงมหาวิทยาลัยแบบยุคปัจจุบันซึ่งมีค่าใช้จ่ายแบบตรงตัว แต่ราคาค่าการศึกษาผ่านการเข้าสังคม การจัดงาน และค่าอาวุธจะเป็นตัวกรองที่แท้จริงว่าใครจะล่าฝันได้เป็นอัศวิน เห็นไหมว่ากว่าจะได้เป็นไอคอนนิกของยุคนั้น ไม่ใช่ถูกเลยจริง ๆ

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

The Story of Medieval England: From King Arthur to the Tudor Conquest By Jennifer Paxton
https://www.audible.com/pd/The-Story-of-Medieval-England-From-King-Arthur-to-the-Tudor-Conquest-Audiobook/B00DGBC6Y8

 

The Other Side of History: Daily Life in the Ancient World By Robert Garland
https://www.audible.com/pd/The-Other-Side-of-History-Daily-Life-in-the-Ancient-World-Audiobook/B00DDVPXJG

 

Nerd with me

 

 

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ