นับได้ว่าเป็นโชคดีอย่างมากของผู้เขียนที่มีโอกาสได้ไปเยือนกรุงโรม ประเทศอิตาลีแบบไม่นึกไม่ฝัน และยิ่งโชคดีขึ้นไปอีกสองเท่าทวีคูณที่ไกด์เลือกพาลงไปชม Catacombs of Saint Callixstus หนึ่งในสุสานใต้ดินหลายแห่งของกรุงโรม แทนการเดินช้อปปิ้งในย่านหรูหรา
Catacombs of Rome สุสานรังผึ้งแห่งกรุงโรม คืออะไร? และทำไมสุสานจึงต้องลงไปหลบซ่อนอยู่ใต้ดิน?
คาตากอม (Catacombs) มีความหมายดั้งเดิม แปลว่า "ถัดจากเหมืองหิน" ซึ่งสันนิษฐานได้ว่ามาจากการขุดค้นพบครั้งแรกบริเวณชานเมืองของกรุงโรม อันเป็นที่ตั้งถัดจากเหมืองหิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝังศพ แต่หากแปลตามรูปคำศัพท์ของภาษาอังกฤษจะหมายถึง หลุมฝังศพใต้ดินที่มีหลายๆ ห้อง (พจนานุกรม อังกฤษ -ไทย สอ เสถบุตร) สาเหตุที่ต้องสร้างไกลจากตัวเมือง เนื่องด้วยกฎหมายโรมันในสมัยนั้นห้ามไม่ให้มีการฝังศพของผู้ตายภายในเขตเมือง ด้วยเหตุนี้สุสานใต้ดินทั้ง 4 แห่ง จึงตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองและแยกออกจากกันด้วย สาเหตุความจำเป็นที่ต้องสร้างสุสานใต้ดินนั้นมีมาจาก ชาวคริสเตียนไม่เห็นด้วยกับประเพณีการเผาศพตามกฎหมายของโรมัน พวกเขาจึงตัดสินใจสร้างสุสานใต้ดินขนาดใหญ่เพื่อหลบซ่อนจากสายตาชาวโรมันที่มองว่าการเก็บศพไว้เป็นความผิด ดังนั้น เมื่อมีการล้มหายตายจากพลัดพรากไปสู่อีกภพภูมิหนึ่ง ครอบครัวจึงต้องแอบหาที่ประกอบพิธีทางศาสนา การสร้างสุสานที่ซ่อนอยู่ลึกใต้พื้นดินจึงจัดว่าเป็นสถานที่หลบภัยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคริสเตียนสามารถฝังศพญาติพี่น้องของตนเองได้อย่างอิสระ
ภาพที่ 1 สภาพสุสานใต้ดินของชาวคริสเตียนเมื่อราวสองพันปีก่อน
หลังการซื้อตั๋วเข้าชมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไกด์พาเข้าไปฟังประวัติของสถานที่นี้ก่อน เมื่อฟังการบรรยายจบ ทราบที่มาที่ไปของสุสานอย่างคร่าว ๆ แล้ว ทำให้การทัวร์สุสานของผู้เขียนเกิดความรู้สึกผสมปนเปกันระหว่างความน่าทึ่งและความสลดใจ และนี่คืออีกมุมหนึ่งของกรุงโรมที่ผู้เขียนได้เห็นนอกเหนือจากความงดงามอลังการ อย่าง พิพิธภัณฑ์วาติกัน หรือโคลอสเซียม
ผู้เขียนเดินผ่านประตูแคบๆ ประดับไปด้วยป้ายชื่อของหลุมฝังศพ ผ่านหลุมฝังศพใต้ดินอันกว้างใหญ่ ซึ่งขุดด้วยมือ รู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน ทางเดินเป็นช่องเล็ก ๆ มีบันไดทอดยาวลงไปยังด้านล่าง ยิ่งเดินลึกลงไป ทางก็เริ่มแคบลง ผนังด้านข้างเป็นดินกึ่งหินที่ไกด์บอกว่าเป็นหินทัฟฟ์ (Tuff) หินทัฟฟ์เป็นหินที่อ่อนที่ขุดง่ายและแข็งตัวเมื่อถูกอากาศ เหมาะแก่การสร้างอุโมงค์และแกะเป็นช่องเพื่อใช้ในการบรรจุศพ ด้วยความแคบของเส้นทาง เนื้อตัวของเราอาจไปสัมผัสกับผนังอุโมงค์จนทำให้ผงดินสีน้ำตาลละเอียดติดเนื้อตัวเราได้ ยิ่งเดินเข้าไปลึกแสงสว่างเริ่มน้อยลง มีเพียงหลอดไฟเล็กๆ เป็นระยะ แต่บางช่วงก็มืดสลัวจนผู้เขียนต้องรีบก้าวเท้าให้ยาวขึ้น ตลอดทางเดินที่มีความกว้างประมาณสองคน ด้านซ้ายและด้านขวาเต็มไปด้วยช่องโพรงดินที่ถูกเจาะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กยาวไม่เท่ากัน ไกด์อธิบายว่าทุกช่องล้วนแต่เคยบรรจุศพของคริสตชนแล้วนับแสนศพ อากาศข้างล่างเริ่มเย็นและชื้นขึ้น ความมืดสลัวก็เพิ่มมากขึ้นทุกที เงาของผู้เขียนทาบไปตามผนังอุโมงค์ ล้อเล่นกับแสงจากหลอดไฟวูบไหว แทบทุกคนไม่อยากอยู่ท้ายกลุ่ม อุปมาเหมือนความมืดข้างหลังจะวิ่งไล่ตามเรามาเรื่อย ๆ ขณะที่เดินไปยังส่วนที่ลึกที่สุดพบว่ามีการแบ่งแยกย่อยออกเป็นซอกเล็กซอกน้อยเจาะทะลุถึงกัน บริเวณนี้มีช่องเก็บศพมากเป็นพิเศษ ผู้เขียนแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบนจนคอตั้งบ่า มีช่องที่เคยบรรจุศพเป็นสิบช่องคล้ายกับการบรรจุอัฐิตามวัดของบ้านเรา จุดนี้ไกด์ต้องคอยหันมากำชับเป็นระยะว่าอย่าเดินแยกออกไปทางอื่น เพราะสุสานใต้ดินเหล่านี้มีทางเดินจำนวนมากที่สร้างเป็นเขาวงกตยาวหลายกิโลเมตร บางช่วงอาจมีช่องเก็บศพด้วยกันถึง 4 ชั้นหรือ 4 ระดับ ถ้าเดินออกนอกเส้นทางอาจมีสิทธิ์หลงทางได้ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ผู้เขียนก็เกิดอาการเสียวสันหลังวาบจนต้องรีบเดินตามติดไกด์ไปทันที
บริเวณโถงกลางซึ่งผู้เขียนสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพิธีประกอบพิธีทางศาสนา มีรูปสลักหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ของนักบุญเซซิเลีย นักบุญหญิงท่านนี้เป็นลูกสาวของเศรษฐีผู้หนึ่งเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับนายทหารชาวโรมัน ซึ่งเธอปฏิเสธเพราะได้ประกาศตัวแล้วว่าจะเป็นเจ้าสาวผู้บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า นายทหารไม่พอใจมากจึงสั่งประหารชีวิตเธอด้วยการตัดศีรษะ แต่ไม่ว่าจะเอามีดดาบฟันลงไปกี่ครั้งศีรษะก็ไม่ขาดออกจากร่างเธอได้ คงปรากฎเป็นเพียงรอยเล็ก ๆ รอบคอเท่านั้น รูปสลักนี้ทำออกมาได้อย่างวิจิตรงดงามมาก เป็นรูปหญิงสาวรูปร่างสมส่วนนอนตะแคง ศีรษะแหงนเงยไปข้างบนน้อย ๆ บริเวณศีรษะตั้งแต่ดวงตาขึ้นไปมีผ้าพันอยู่ ช่วงลำคอระหงมีรอยพาดของมีดดาบเป็นเส้นเล็ก ๆ มือข้างขวาของนักบุญโรซาเรียทำสัญลักษณ์ “มรณสักขี”(martyr) หมายถึงคริสต์ศาสนิกชนที่ถูกทรมานจนตายหรือถูกฆ่าหรือถูกลงโทษให้ประหารชีวิต หลังจากที่คริสต์ศาสนิกชนต้องหลบซ่อนการเก็บศพอยู่หลายปี จุดจบของการขัดแย้งรวมไปถึงการกดขี่ข่มเหงชาวคริสต์ได้ยุติลง เมื่อมีการลงนามในพระราชกฤษฎีกาแห่งมิลานในปี 313 อย่างไรก็ตาม สุสานใต้ดินแห่งนี้ยังคงถูกใช้งาน จนถึงศตวรรษที่ 5
ภาพที่ 2 แท่นหินที่มีรูปสลักหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ของนักบุญเซซิเลีย
ก่อนเดินขึ้นบันไดกลับสู่ด้านบน ผู้เขียนพบว่าช่องบางช่องมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งได้ข้อมูลอธิบายเพิ่มเติมว่าช่องที่มีขนาดใหญ่นี้เป็นการฝังศพของบุคคลทั้งตระกูล ผู้ที่มีฐานะดีจับจองช่องบรรจุศพไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้อยู่ร่วมกับบุคคลในตระกูลของตน ผู้เขียนเดินไปตามทางแคบ มืด และชื้น อย่างเงียบ ๆ วูบหนึ่งรู้สึกราวกับภาพในอดีตวิ่งผ่านล้อมรอบตัวเหมือนฟิล์มหนัง ภาพที่ย้อนกลับไปหลายร้อยหลายพันปีก่อนภาพที่ผู้คนเดินเข้าเดินออกผ่านเส้นทางนี้ ภาพผู้คนทุกเพศทุกวัยที่มีใบหน้าเคลือบคลุมไปด้วยความทุกข์โศกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก
สุสานหรือหลุมฝังศพ อาจไม่ใช่สถานที่ที่ใครต้องการไปเยือนนัก แต่คาตากอมเป็นอีกหนึ่งแห่งที่สมควรไปเยี่ยมเยือนหากมีโอกาส เพียงแค่มองข้ามบรรยากาศอันวังเวงหม่นหมองไปเสียก็จะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ได้พบกับสัจธรรมของโลก เข้าใจข้อมูลเบื้องลึกต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องในอดีตที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
แหล่งเอกสารอ้างอิง
https://www.rome.net/catacombs-rome
https://www.catacombesancallisto.it/en/index.php
https://www.romaexperience.com/post/rome-catacombs
https://dictionary.sanook.com/search/dict-en-th-sedthabut