เชื่อว่าในชั่วชีวิตคนมักมีช่วงเวลาที่นึกย้อนกลับไปในวัยเด็ก วัยที่ยังไม่มีเรื่องวุ่นวายใจ หรือเคร่งเครียดกับภาระและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างผู้ใหญ่ และมีเรื่องราวความทรงจำที่มีความสุขและความสนุกสนานให้นึกถึง ซึ่งหลายคนอาจมีความทรงจำที่ผูกพันกับ “ของเล่น” และหากใครที่มีอารมณ์รู้สึกโหยหา อยากย้อนเวลาไปยังอดีต ผู้เขียนขอแนะนำให้ลองไปที่พิพิธภัณฑ์ของเล่น ตูนนี่ทอย ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนศรีสมาน ซอย 8 ในย่านปากเกร็ด สถานที่ที่จะนำพาไปสู่กาลก่อนและมีโอกาสได้เสพความสุขในช่วงวัยเด็กอีกครั้ง

               เจ้าของและผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ คือ คุณสมพรและคุณภานินท์ โพธิ์อยู่ ใช้เวลาสะสมของเล่นมานานกว่า 20 ปี ซึ่งเริ่มจากซื้อของเล่นให้บุตรชายทั้งสามคน และสอนให้ลูกรู้จักรักษาของเล่นให้อยู่ในสภาพดี ภายหลังเมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงต้องการสร้างที่เก็บของรักของหวงเหล่านี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ชื่นชม และเกิดประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลัง ทั้งนี้ ของเล่นหลายชิ้นกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าเพิ่มตามกาลเวลา และบางชิ้นก็หาไม่ได้อีกแล้ว โดยทั้งสองได้เดินทางไปศึกษาดูการจัดแสดงจากพิพิธภัณฑ์หลายแห่งแล้วนำมาปรับประยุกต์ออกแบบการจัดแสดงให้สอดคล้องกับของสะสมที่มีอยู่ พิพิธภัณฑ์จึงเต็มไปด้วยของเล่น ของสะสมมากมายสารพัดสี สารพัดแบบรูปทรงในทุกตารางเมตร

               ภายในอาคารสองชั้นในพื้นที่ 800 ตารางเมตร  มีการจัดแสดงของเล่นและของสะสมไว้อย่างเป็นระเบียบ จัดแบ่งเป็นเรื่องราวและสัดส่วนให้เดินดูได้อย่างสบายตาและเพลิดเพลิน เริ่มจากทางเข้านำไปสู่พื้นที่โซนสำหรับเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กๆ เล่นสนุกกับลูกบอลพลาสติกสี มีบรรยากาศรายล้อมด้วยของสะสมมากมาย ตั้งแต่รถคันเล็ก ตุ๊กตารูปแบบต่างๆ เลโก้ที่ต่อไว้อย่างน่าทึ่ง จากนั้นมีช่องทางเดินผ่านตู้กระจกทั้งสองฝั่งบรรจุเต็มไปด้วยของเล่นและของสะสมอย่างเป็นหมวดหมู่ จนกระทั่งถึงบันไดทางขึ้นไปชั้นที่สอง เมื่อเดินต่อไปตามเส้นทางก็พบกับห้องโถงใหญ่ที่มีตู้โชว์กระจกหลายตู้ พร้อมกับข้าวของหลากหลายที่จัดแสดงไว้จนบรรจบกับทางออกที่เป็นบันไดเดินลงอีกทางหนึ่ง

 

รูปที่ 1 เลโก้รูปการ์ตูนจากเดอะซิมป์สันส์

 

               ไม่ว่าเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายก็มักตื่นตาตื่นใจกับของเล่นมากมายที่เรียงรายให้ดูชมตลอดเส้นทางเดินให้ความรู้สึกเหมือนกับหลุดไปในอีกมิติหนึ่ง ของเล่นที่น่าจะโดนใจเด็กผู้ชายมีทั้งรถยนต์คันเล็ก หุ่นยนต์ ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่น และตุ๊กตาตัวละครจากภาพยนตร์การ์ตูนอย่างทอยสตอรี่ เอเลี่ยนสามตาตัวเขียว หุ่นเหล็ก
มาจิงก้า กันดั้ม หน้ากากเสือ ไอ้มดแดง หุ่นซุปเปอร์แมนตัวใหญ่

 

รูปที่ 2 ตุ๊กตาบลายธ์

 

                ฟากเด็กผู้หญิงที่ชื่นชอบตุ๊กตาหน้าตาสวยงามและมีเครื่องแต่งตัวสารพัดรูปแบบก็อาจถูกใจกับเหล่าตุ๊กตาบาร์บี้ ตุ๊กตาบลายธ์ที่มีตากลมโต หรือตุ๊กตาแฟชั่นที่ถ่ายทอดมาจากตัวละครภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างขึ้นในอเมริกาเมื่อปีพ.ศ. 2553 มีลักษณะการแต่งตัวและแต่งใบหน้าให้เข้มขรึมด้วยการทาเปลือกตาสีดำปื้น ชวนให้นึกเปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องแม่นาคของไทย นอกจากนี้ก็มีตุ๊กตาเจ้าหญิงที่มีเสน่ห์ชวนชมวางอยู่ข้างปราสาท ตัวละครจากภาพยนตร์การ์ตูนหลายเรื่องของวอลต์ ดิสนีย์ และมีแผ่นข้อมูลประวัติชีวิตและผลงานของวอลต์ ดิสนีย์ให้อ่านด้วย สำหรับตุ๊กตาสะสมที่หาชมที่ไหนได้ยากยิ่งเป็นมิคกี้เม้าส์รุ่นลิมิเต็ดที่มีจำนวนผลิตขึ้นเพียง 10 ตัวเท่านั้น รวมถึงมิคกี้เม้าส์ตัวใหญ่ที่ทำจากเหล็กก็เป็นหนึ่งในมิคกี้เมาส์ที่มีจำนวนผลิตแค่ 1,000 ตัว

                 เมื่อเดินลงบันไดมาชั้นล่างอีกครั้ง มีมุมของสะสมเกี่ยวกับโคคา โคล่า หรือโค้กที่มีสีแดงขาวเป็นสัญลักษณ์ที่ โดดเด่นสะดุดตา ของที่สะสมไว้มีบรรจุภัณฑ์โค้กทั้งแบบขวดและกระป๋องจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีของอีกหลายชิ้นที่มีสีแดงขาวหรือตัวหนังสือโคคา โคล่า เช่น ถาด ป้าย หมวก นาฬิกา ผ้ากันเปื้อน เป็นต้น จากนั้นเมื่อเดินต่อไปก็พบทางเดินไปสู่ห้องโถงใหญ่ บนฝาผนังทางเดินมีการประดับตกแต่งด้วยนาฬิการูปทรงน่ารัก
หลากหลายรูปแบบ มีหลายเรือนประดับด้วยการ์ตูน เช่น   มิคกี้เมาส์ มินนี่เม้าส์ สนูปปี้ คิตตี้ เป็นต้น

 

รูปที่ 3 ตุ๊กตามิคกี้เมาส์

 

               ภายในห้องโถงใหญ่มีสิ่งที่โดดเด่นเป็นตุ๊กตาเจ้าหญิงไดอานา (Diana, Princess of Wales) ในฉลองพระองค์ชุดอภิเษกสมรส และอีกหลายชุดที่จัดแสดงอยู่ในตู้เดียวกัน รวมถึงตุ๊กตามาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe) ในชุดกระโปรงสีขาวที่ถ่ายฉากกระโปรงปลิวในตำนานจากฉากหนึ่งในภาพยนตร์ The Seven Year Itch รวมถึงตุ๊กตาเจ้าหญิงเจ้าชายจากเทพนิยายเรื่องต่างๆ ได้แก่ ซินเดอเรลล่าเต้นรำกับเจ้าชาย เจ้าหญิงนิทรา และโฉมงามกับเจ้าชายอสูร จัดแสดงอยู่ในตู้กระจกเดี่ยว

 

รูปที่ 4 ตุ๊กตาซินเดอเรลล่าเต้นรำกับเจ้าชาย

 

               นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์มีสิ่งสะสมเกี่ยวกับภาพยนตร์การ์ตูน ตุ๊กตาโมเดลอนิเมะของญี่ปุ่น สุนัข
ดัลเมเชียน หรือตุ๊กตาซุปเปอร์ฮีโร่อย่างไอรอนแมน สไปเดอร์แมน ฮักส์ ทอร์ เป็นต้น และมีตู้หนึ่งที่จัดแสดงอาวุธต่างๆ จากภาพยนต์ประเภทแอดเวนเจอร์ รวมทั้งไม้กายสิทธิ์จากเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ อีกด้วย

 

รูปที่ 5 ตุ๊กตาโมเดลอนิเมะของญี่ปุ่น

 

               ของเล่นชิ้นเล็กๆ มีคุณค่ามหาศาลต่อพัฒนาการทางสมองและความคิดของเด็ก รวมทั้งจินตนาการ ความฝัน และจุดมุ่งหมายในอนาคต เด็กชายหลายคนเมื่อเติบโตขึ้นอยากนายทหาร ตำรวจ นักบิน  นักแข่งรถ อาจได้แรงบันดาลใจจากของเล่นที่ชื่นชอบในวัยเด็ก และมีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริง มีอาชีพเป็นตำรวจได้ใส่หมวกตำรวจและสัมผัสกับปืนจริง บางคนได้เป็นนักบินขับเครื่องบิน หรือนักขับรถ ในขณะที่เด็กผู้หญิงอาจใฝ่ฝันถึงมงกุฎแบบเจ้าหญิง ซึ่งบางคนอาจเติมเต็มความฝันได้ด้วยการเข้าประกวดนางงามและได้สวมมงกุฎจริงเมื่อชนะ แม้ว่าของเล่นจะมีคุณค่าอย่างมากต่อพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ของเด็ก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็สามารถเรียนรู้เพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่างความจริงกับนิทานหรือนิยาย และเผชิญหน้ายอมรับความเป็นจริงของชีวิตได้

                สถานที่นี้เหมาะแก่การพาลูกหลานและผู้ใหญ่ทุกวัยไปเยี่ยมชม เด็กๆ อาจสนุกและเพลิดเพลินไปกับตุ๊กตาที่ชื่นชอบ พร้อมกับจินตนาการและความใฝ่ฝัน ขณะที่ผู้ใหญ่ก็ได้ย้อนเวลาไปสู่วันแสนสุขในอดีต ที่ล่วงเลยไปแล้วอีกครั้ง เมื่อเดินไปถึงทางออกทุกคนล้วนรู้สึกสนุก มีความสุข เหมือนตอบจบในเทพนิยายหลายเรื่อง

 

พิพิธภัณฑ์ตูนนี่ ทอย เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 9.30-18.00 น.

โทร. 086-337-0136