Museum Core
สุขี อัตตานัง พิพิธภัณฑ์ความสุข
Museum Core
07 ต.ค. 67 670
ประเทศเยอรมันนี

ผู้เขียน : ปุญญพันธุ์ พิริปุญโญ

               คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสุขของมนุษย์เข้ามาและจากไปพร้อมกับจิตวิญญาณ โดยมีร่างกายเป็นสื่อกลางคอยรับความสุข เมื่อวัยหนึ่งร่างกายหยุดการทำงานแล้วก็คงเหลือเพียงแค่ร่างที่มีเนื้อเยื่อ มีกระดูก และอวัยวะอันซับซ้อนที่พร้อมสลายไปกับธรรมชาติ

               ทว่าปัจจุบันมีสถานที่ที่รักษาร่างกายไร้วิญญาณไว้ได้อย่างสมบูรณ์ สามารถเข้าไปศึกษาดูอวัยวะต่าง ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเพลิดเพลิน และชวนให้ย้อนไปทำความเข้าใจความสุขไปด้วย โดยบทความนี้จะพาไปชมพิพิธภัณฑ์ที่นำเอาร่างไร้วิญญาณและความสุขมาผสมกัน

               บอดี้เวิล์ดมิวเซียม (Body Worlds Museum “Anatomy of Happiness”) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในห้างขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) ประเทศเยอรมันนี ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์ขายตั๋วเข้าชม พร้อมกับทางเข้าเล็ก ๆ ที่มองดูไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์ แต่สิ่งที่เร่งเร้าให้ขาสั่นได้เป็นป้ายโฆษณาแสดงรูปร่างกายที่กำลังจ้องมองมา วันนั้นผู้เขียนเดินทางไปคนเดียวจึงข่มใจไว้ให้นิ่งรีบจ่ายเงินแล้วเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ทันที!

               เมื่อก้าวเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์ ห้องแรกเป็นห้องดำมืดฉายการ์ตูนแอนิเมชันน่ารักพร้อมตั้งคำถามว่า ความสุขคืออะไร? คำถามง่าย ๆ ที่คนอาจไม่ได้ถามตัวเองบ่อยนัก ความมืดและเงียบทำรู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อย หลังดูจบแล้วก็เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ระหว่างเดินไปจนเกือบสุดขั้นบันได ผู้เขียนเหลือบสายตาไปทางขวามือ มองเห็นศีรษะมนุษย์ที่ถูกผ่าครึ่งซีกหันหน้าเข้าหากัน มองเห็นอวัยวะภายในทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เปลือกกะโหลก สมอง เส้นประสาท เส้นเลือด โพรงจมูก ลิ้น ฟัน หลอดอาหาร เมื่อพยายามก้าวขาเดินต่อไปข้างหน้า พบหุ่นร่างกายมนุษย์ที่มีเพียงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น กำลังยืนถือผิวหนังทั้งหมดของร่างกายไว้ ยกเว้นผิวหนังบริเวณคิ้ว จมูก เปลือกตา ริมฝีปาก และใบหู สิ่งที่เห็นเป็นอวัยวะทุกส่วนของร่างกายของคนจริงที่ประสงค์บริจาคร่างกายให้กับพิพิธภัณฑ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เพราะร่างกายตรงหน้าไม่ใช่สิ่งลี้ลับน่ากลัวอะไร แต่เป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเราทั้งหมดเพียงแค่อยู่ใต้ผิวหนังเท่านั้นเอง

 

ภาพที่ 1 “หัวใจ” อวัยวะภายในถูกผ่าครึ่งซีก แสดงระบบการทำงานของหัวใจ

 

               โซนแรกนิทรรศการมาพร้อมคำถาม “ความสุขเกิดขึ้นได้อย่างไร?” คำถามนี้ติดตั้งอยู่ข้างตู้แสดงเส้นประสาทที่ไล่เรียงตั้งแต่สมองจนมาถึงปลายเท้า และมีคำอธิบายเขียนไว้ว่า “...ความสุขนั้นเกิดจากการทำงานของเส้นประสาทที่สั่งการให้เราทำสิ่งต่าง ๆ แล้วหลั่งฮอร์โมนตอบสนอง… ” คำตอบนี้เป็นเหมือนเส้นบาง ๆ ที่คั่นระหว่างปรัชญากับชีววิทยาแต่คนไม่เคยมองเห็น ความกลัวของผู้เขียนจากในตอนแรกลดลงไปทันทีและเปลี่ยนเป็นความรู้สึกตื่นเต้น น่าสนใจไปทุกจุด

               เมื่อเดินข้ามมาอีกโซนก็ได้เห็นรูปร่างของอวัยวะและรูปร่างมนุษย์แต่เป็นเส้นสีแดงเรียงกัน หากมองดูเผิน ๆ คล้ายกับงานศิลปะ ทว่าแท้จริงแล้วเป็นการแสดงให้เห็นระบบหมุนเวียนเลือดบนร่างกายมนุษย์ด้วยเส้นเลือดทุกเส้นของร่างกายที่รวมและเรียงกันจนเป็นรูปเป็นร่าง เผยให้เห็นเส้นเลือดสำคัญ เห็นหัวใจที่ถูกผ่าออกให้เห็นกันอย่างชัดเจน โซนนี้เล่าเรื่องหนึ่งในสาเหตุการตายมากที่สุดทั่วโลก อย่างอาการหัวใจวาย จากความเครียดที่รุมเร้าและวิถีชีวิตที่เร่งรีบวุ่นวายก็อาจเป็นเหตุทำให้เส้นเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน รวมไปถึงอาการอกหักที่ทำให้ร่างกายทำงานเปลี่ยนไป และมีอาการไม่ต่างจากโรคหัวใจวายเลย

 

ภาพที่ 2 เส้นสีแดงแสดงถึงระบบหมุนเวียนเลือด

 

               ถัดมาที่ชั้นล่างนิทรรศการจัดแสดงเกี่ยวกับการทำงานของอวัยวะในแต่ละระบบร่างกาย พร้อมกับตู้จัดแสดงชิ้นส่วนจากร่างกายจริง เช่น กระดูกชิ้นเล็กที่สุดในหู (ฆ้อน ทั่ง โกลน) ปอดสะอาดบริสุทธิ์เปรียบเทียบกับปอดของคนสูบบุหรี่ พร้อมแก้วใส่น้ำมันดิน (Tar) ที่เป็นสารก่อมะเร็งในบุหรี่ ผนังกระเพาะอาหารที่ผ่าแผ่ออก อวัยวะเพศชายและหญิงที่ผ่าตัดขวางแสดงให้เห็นภายใน เป็นต้น

               สิ่งจัดแสดงที่นับว่าเป็นไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นหุ่นร่างกายมนุษย์หลายคนแสดงอิริยาบทในท่าทางต่างๆ ทั้งแก่งแย่งชิงลูกรักบี้ คู่รักกอดกัน แม่พร้อมลูกในท้อง ลีลากายกรรมในท่าต่าง ๆ ขณะที่ได้ดูหุ่นแต่ละตัวและร่างกายแต่ละส่วนอย่างละเอียดจนผู้เขียนเผลอลืมไปว่าสิ่งที่ได้เห็นทั้งหมดนี้เป็นร่างกายของคนคนหนึ่งที่เคยเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตมาก่อน ความตื่นตะลึงปนฉงนสนเท่ห์จนอ้าปากค้างทำให้ผู้เขียนมีความสงสัยว่า “ทำได้ยังไง?” และแล้วคำถามนี้ก็ได้คำตอบจากพิพิธภัณฑ์ที่ได้เตรียมโซนที่นั่งสำหรับชมวีดิโอที่แสดงวิธีกำซาบด้วยสารพลาสติก (Plastination) พร้อมกับจัดแสดงอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ในการจัดแต่งศพให้กลายเป็นหุ่นในพิพิธภัณฑ์

 

ภาพที่ 3 หุ่นร่างกายมนุษย์แสดงรายละเอียดของกล้ามเนื้อในท่าต่างๆ

 

               แน่นอนว่าทุกตู้จัดแสดงไม่เพียงให้ความรู้เกี่ยวกับร่างกาย แต่ยังมีคำถามกระตุ้นให้ชวนคิดถึงความสุขที่มองตามความเป็นจริง เช่น เด็กที่มีภาวะดาวน์ซินโดรมเป็นมนุษย์ที่มีความสุขตลอดเวลารึเปล่า? กราฟแสดงผลระหว่างความสุขหลังการแต่งงาน และหลังการหย่าร้าง แบบไหนทำให้คนรู้สึกมีความสุขมากกว่ากัน? สัตว์มีความสุขได้เหมือนมนุษย์หรือไม่? ความกลัวในใจผู้เขียนที่เคยมีก่อนเดินเข้าพิพิธภัณฑ์สลายหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความตื่นตาตื่นใจ และสนุกไปกับการเดินชมร่างไร้วิญญาณ

               ก่อนเดินออกไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีป้ายเล็ก ๆ บอกว่า ความสนุก ความภูมิใจ หรืออารมณ์ด้านบวกต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงอารมณ์ชั่ววูบแต่เป็นอารมณ์ที่อยู่กับตัวเสมอ แต่หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุดสิ่งหนึ่งเป็นการได้รับโอกาสแสดงความรู้สึกต่อผู้อื่น และนั่นก็คือ ขอบคุณ Thank You!

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ