พิพิธภัณฑ์ หรือหอศิลป์ จัดเป็นศาลาพักใจที่ปลอดภัย (safe zone) ของบุคคลที่มีโลกส่วนตัวสูง หรือเรียกด้วยคำทับศัพท์ร่วมสมัยเป็น “ชาวอินโทรเวิร์ต” (introvert) ด้วยเป็นสถานที่ที่เงียบ เย็นสบาย และไม่ต้องพูดคุยกับใครโดยไม่จำเป็น แม้จะมีประเด็นบ้างเรื่องความจอแจของผู้เข้าชมที่แน่นถนัดบริเวณชิ้นงานจัดแสดงที่เป็นดาวเด่น ทว่าชาวอินโทรเวิร์ตก็ไม่ยี่หระ สามารถเดินผ่านข้ามผลงานชิ้นนั้นไปได้ และอาจวนกลับมาชมใหม่ในช่วงเวลาที่ผู้คนเบาบางลงแล้ว
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) นับเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายของใครหลายคนที่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากจัดเก็บรักษาผลงานทางศิลปะอันทรงคุณค่าระดับโลกแล้ว ตัวอาคารเดิมยังเคยเป็นพระราชวังหลวงอีกด้วย อีกทั้ง พีระมิดแก้วที่อยู่ด้านหน้าก็ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ผู้คนมักมาถ่ายรูปหากแวะเที่ยวที่ปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส (France) ทว่าปัจจุบันบางคนอาจยังไม่ทราบว่าลูฟวร์ไม่ได้มีเพียงแห่งเดียว แต่มีลูฟวร์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่เกาะซาดิยาต (Saadiyat Island) เมืองอาบูดาบี (Abu Dhabi) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) ด้วย
ภาพที่ 1 โดมพีระมิดแก้วด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แห่งปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อาบูดาบี (Louvre Abu Dhabi) ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะใช้ชื่อลูฟวร์อาบูดาบีไป จนกระทั่งปีค.ศ. 2047 และมีการนำผลงานศิลปะบางชิ้นจากลูฟวร์ที่ปารีสมาหมุนเวียนจัดแสดงนิทรรศการร่วมกับผลงานศิลปะจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆ
เมื่อลูฟวร์แห่งปารีสมีพีระมิดแก้วเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ลูฟวร์อาบูดาบีก็มีอาคารทรงโดมรังผึ้งที่ออกแบบให้มีลูกเล่นกับลำแสงที่ส่องผ่านเข้ามาภายในให้เกิดมิติที่สวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้บางส่วนของอาคารยังตั้งอยู่ในน้ำทะเลที่ตั้งใจออกแบบ (concept) ให้มองดูคล้ายโดมลอยน้ำ (floating dome) และหากใครมาเยี่ยมชมที่นี่ก็ไม่ควรพลาดชมผลงานศิลปะชิ้นสำคัญ (masterpiece) ของพิพิธภัณฑ์ โดยส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบผลงานภาพหญิงงามแห่งแฟร์โรนิแยร์ (La Belle Ferronniere) วาดโดยลีโอนาร์โด ดา วินซี่ (Leonardo da Vinci) และอีกภาพหนึ่งเป็นภาพนโปเลียนข้ามเทือกเขาแอลป์ (Napoleon Crossing the Alps) ที่เป็นผลงานของศิลปินฝรั่งเศสคนดังอย่าง ฌัก-หลุยส์ ดาวีด (Jacques-Louis David) ก็ไม่ควรพลาดชม
ภาพที่ 2 โดมลอยน้ำและบางส่วนของอาคารลูฟวร์อาบูดาบีที่ยื่นเข้าไปในทะเล
แหล่งที่มาภาพ https://www.youtube.com/watch?v=Cu_Ii8QeXpQ
หลายคนอาจสงสัยว่าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ทั้งสองแห่งนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
แน่นอนว่าลูฟวร์แห่งปารีสมีความใหญ่โตมากด้วยเคยเป็นพระราชวังเก่า และมีวัตถุสะสมจำนวนมหาศาลที่เป็นชิ้นงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ทุกชิ้นมีความสวยงามเก่าแก่และถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดี ทำให้การเลือกให้ชิ้นงานใดโดดเด่นเป็นพิเศษของแต่ละห้องจึงค่อนข้างยากหน่อย หากใครอยากเดินอ่านรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน หรือฟังรายละเอียดจากเครื่องนำชม (audio guide) ไปด้วย คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 2-3 วันเลยทีเดียวในการเดินชมให้ครบทั้งหมด
ห้องจัดแสดงที่มีชิ้นงานโดดเด่นที่สุดเป็นห้องที่มีภาพเขียนโมนาลิซา (Mona Lisa) ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากที่ลูฟวร์ปารีส คือ การจัดเก้าอี้นั่งไว้เยอะมากในห้องแสดงภาพเขียน
ผู้ชมจึงสามารถพักขานั่งดื่มด่ำกับความงดงามของภาพเขียน มีเวลาปล่อยสมองให้จินตนาการถึงสิ่งที่นักวาดภาพต้องการสื่อความหมาย หรือพินิจเทคนิคการวาดภาพ นอกจากนี้ชิ้นงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์มีครบทุกศาสตร์ทุกแขนงที่สามารถจินตนาการได้ ทั้งรูปปั้น เฟอร์นิเจอร์ ชุดแต่งกาย เครื่องประดับ อัญมณี มัมมี่ หนังสือ เป็นต้น
ดังนั้นผู้เยี่ยมชมต้องวางแผนให้ดีว่าสนใจอยากดูอะไรและติดตั้งไว้ที่ห้องไหน การเดินหลงทิศทาง หรือเผลอไผลแวะชมชิ้นงานระหว่างเส้นทางอาจทำให้เสียเวลานับชั่วโมงกว่าจะหารูปโมนาลิซ่าเจอ
ภาพที่ 3 ชิ้นส่วนประติมากรรมที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
จากรูปลักษณ์อาคารสไตล์โมเดิร์น ลูฟวร์อาบูดาบีดูมีความทันสมัย ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์มีอาคารบางส่วนยื่นเข้าไปในทะเลอ่าวเปอร์เซีย จึงจัดกิจกรรมพิเศษเป็นบริการทัวร์พายเรือคายัคชมรอบๆ หรืออาจจิบไวน์ดูพระอาทิตย์อัสดงในบริเวณตัวอาคารก็ได้ แม้ว่าชิ้นงานศิลปะที่จัดแสดงอาจไม่โด่งดังเท่าของลูฟวร์ที่ปารีส แต่การจัดแสดงชิ้นงาน การจัดแสง และเส้นทางการเดินไม่สลับซับซ้อน การชมชิ้นงานเข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งเป็นข้อเด่น และพิพิธภัณฑ์มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเดินชมนิทรรศการได้ครบทั้งหมดแบบสบายๆ
นอกจากนี้ บางชิ้นงานที่โดดเด่นมีการทำจำลองชิ้นงานขนาดเล็กประกอบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าลักษณะของรูปปั้น หรือชิ้นงานที่มีองค์ประกอบครบสมบูรณ์นั้นเป็นอย่างไรก่อนแตกชำรุดเสียหาย อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้
ผู้ชมได้ลูบคลำสัมผัสได้ด้วย ซึ่งตอบโจทย์สร้างประสบการณ์เรียนรู้ได้ดี ทั้งกลุ่มเด็กที่ชอบของจับต้องได้ (hands on) และกลุ่มผู้บกพร่องการมองเห็น (visual impairment)
ภาพที่ 4 กิจกรรมสบายๆ พายเรือคายัคที่ลูฟวร์อาบูดาบี
ภาพที่ 5 การจัดแสดงวัตถุจำลองที่จับสัมผัสได้ถูกใจเด็ก และเอื้อให้ผู้บกพร่องทางการมองเห็นได้เข้าใจ
รูปทรงของวัตถุมากยิ่งขึ้น
การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ทั้งสองแห่ง นอกจากได้เรียนรู้และชื่นชมผลงานศิลปะแล้ว ยังเป็นการหลบลี้จากความวุ่นวายภายนอกเพื่อหาที่พักใจในบรรยากาศสงบงามห้อมล้อมด้วยผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า อาจสร้างประสบการณ์ให้รู้สึกผ่อนคลายและเติมพลังให้กับชาวอินโทรเวิร์ตได้เป็นอย่างดี หากใครที่มีโอกาสไปเยือนสถานที่ทั้งสองแห่งน่าจะสัมผัสได้ว่า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีเสน่ห์และเป็นพื้นที่ที่มีความพิเศษมาก การดึงตนเองออกจากความวุ่นวายในสังคมปัจจุบันเข้าสู่โลกของวัฒนธรรมและศิลปะให้ความรู้สึกเหมือนกับได้หลบเข้ามาพักในพื้นที่ปลอดภัยส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุด