Museum Core
พาราลิมปิกเกมส์: จากงานแข่งกีฬาวีลแชร์ในศูนย์บำบัด สู่ มหกรรมกีฬาคนพิการสากล
Museum Core
26 ส.ค. 68 317

ผู้เขียน : นุศรา นภาวัฒนากูล

               ในการแข่งขันกีฬาระดับสากล นอกจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์แล้ว พาราลิมปิกเกมส์นับเป็นอีกเวทีการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่เปิดโอกาสให้ผู้พิการจากทั่วโลกได้แสดงทักษะและความสามารถ หากนับตั้งแต่การจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติครั้งแรก ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีในปีค.ศ. 1960 จนถึงปัจจุบัน พาราลิมปิกเกมส์จัดการแข่งขันมาเป็นครั้งที่ 17 แล้ว

               กีฬาที่คณะกรรมการพาราลิมปิกสากลรับรองในปัจจุบันมีทั้งหมด 22 ชนิดซึ่งครอบคลุมความบกพร่องทางร่างกายต่าง ๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การมองเห็น ไปจนถึงภาวะสมองพิการ (ยกเว้นกีฬาสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน)

               นอกเหนือข้อมูลเบื้องต้นนี้ ผู้เขียนมีความสนใจอยากรู้เป็นอย่างยิ่งว่า พาราลิมปิกเกมส์มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และมีข้อมูลเรื่องราวใดที่น่าสนใจอีกบ้าง ฉะนั้น บทความนี้ผู้เขียนจะย้อนเวลาไปศึกษาวิวัฒนาการของพาราลิมปิกตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ยุครุ่งโรจน์ และปัจจุบัน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการเบ่งบานของมหกรรมกีฬาสำหรับผู้พิการ

สโตก แมนเดวิลล์ เกมส์: งานแข่งกีฬาวีลแชร์ของคุณหมอชาวยิว

               ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1948 หรือ 3 ปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นายทหารผู้ร่วมรบในศึกสงครามจำนวนมากต่างบาดเจ็บ เสียชีวิต สูญหาย และรอดชีวิตกลับมา ซึ่งในกลุ่มทหารที่รอดชีวิตมีบางส่วนที่สูญเสียอวัยวะต้องกลายเป็นผู้พิการ แน่นอนว่า จากชีวิตที่เคยมีสภาพร่างกายสมบูรณ์แล้ววันหนึ่งต้องมานั่งวีลแชร์เนื่องจากเป็นอัมพาต หรือสูญเสียอวัยวะไป ย่อมบั่นทอนกำลังใจให้ท้อแท้จากความไม่สมบูรณ์ทางร่างกาย อาจทำให้มีสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ รู้สึกไร้ค่า หรือตายทั้งเป็น

               ดร. ลุดวิก กุตต์แมนน์ แพทย์ประสาทวิทยาชาวยิวที่ลี้ภัยมายังประเทศอังกฤษเพื่อหลบหนีการคุกคามและกดขี่ข่มเหงของนาซีในประเทศเยอรมนี เขาเปิดศูนย์รักษาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บไขสันหลังให้กับทหารใน
หมู่บ้านสโตก แมนเดวิลล์ (Stoke Mandeville) ซึ่งเขาเข้าอกเข้าใจผู้ป่วยผู้พิการทุกคนดีว่า พวกเขารู้สึกเสียใจและสิ้นหวังในชีวิตแค่ไหน จึงเลือกวิธีการรักษาผู้ป่วยแบบมุ่งเน้นการขยับร่างกาย หรือเรียกว่า ‘กายภาพบำบัด’ เขาให้
ผู้ป่วยฝึกเดิน ช่วยนวด-ยกแขนและขา อุ้มผู้ป่วยให้ลุกจากเตียงทุก 2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันอาการติดเตียงและแผลกดทับ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมเล็ก ๆ ระหว่างวัน เช่น งานฝีมือ หรือกิจกรรมกลางแจ้งอย่าง ‘การเล่นกีฬา’ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ ‘กีฬาของผู้พิการ’

 

ภาพที่ 1 ดร. ลุดวิก กุตต์แมนน์ บิดาแห่งพาราลิมปิกเกมส์

แหล่งที่มาภาพ: The History Press (2016). Dr. Guttmann and the Paralympic movement. [online]. Accessed 2024 Aug 29. Available from: https://thehistorypress.co.uk/wp-content/uploads/media/2184/ludwig_guttmann2.jpg

 

               ดร. กุตต์แมนน์เล็งเห็นว่า กีฬาจะช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วย และจิตใจให้กลับมาสดใส รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับคนปกติ เขาจัดการแข่งขันกีฬาวีลแชร์ครั้งแรกในวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ.1948 ณ ศูนย์บำบัดที่สโตก แมนเดวิลล์ (ซึ่งเป็นวันเดียวกับการแข่งขันโอลิมปิกที่ลอนดอนในปีนั้น) และตั้งชื่องานว่า ‘สโตก แมนเดวิลล์ เกมส์’ โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 16 คน ประกอบด้วยทหารชาย 14 คน และทหารหญิง 2 คน ในการแข่งขันกีฬาเพียงชนิดเดียว คือ การยิงธนู ต่อมาจึงมีการเพิ่มประเภทกีฬาให้หลากหลายมากขึ้น อาทิ บาสเก็ตบอล กรีฑา ฟันดาบ เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักกีฬาผู้พิการใช้ทักษะความสามารถเดิมได้เข้าร่วมแข่งขัน

               ทั้งนี้ ดร.กุตต์แมนน์เคยให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า “การเล่นกีฬานี้สำคัญต่อผู้ป่วยอัมพาตอย่างมาก ทั้งมุมมองด้านร่างกายและสภาพจิตใจ โดยเฉพาะการฟื้นฟูความคิดให้กลับคืนสู่สังคมของผู้ป่วยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” ซึ่งคำตอบที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า “กีฬาเป็นยาวิเศษ” รักษาได้ทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจให้กลับมาแข็งแกร่ง มีความเชื่อมั่นในตัวเอง รู้สึกเท่าเทียม ไม่แตกต่างจากคนปกติทั่วไป

 

 

ภาพที่ 2 ทหารชายและทหารหญิงที่ร่วมแข่งขันกีฬาวีลแชร์ในสโตก แมนเดวิลล์ เกมส์

แหล่งที่มาภาพ: The History Press (2016). Dr. Guttmann and the Paralympic movement. [online]. Accessed 2024 Aug 29. Available from: https://thehistorypress.co.uk/wp-content/uploads/2024/05/queenslanders_in_the_australian_team_for_the_1984_summer_paralympics_in_stoke_mandeville-1024x721.jpg

 

พาราลิมปิกเกมส์: มหกรรมกีฬาเพื่อนักกีฬาผู้พิการจากนานาประเทศ

            คำว่า ‘พาราลิมปิก’ ประกอบขึ้นจากการสนธิคำศัพท์ 2 คำ คือ para- (ภาษากรีกแปลว่า เคียงคู่ หรือคู่ขนาน) กับคำว่า + olympic ซึ่งหมายถึงงานพาราลิมปิกจะจัดเคียงคู่พร้อมกันกับงานโอลิมปิก อีกทั้งอาจสื่อความหมายว่า ไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์จากสนามแข่งโอลิมปิก หรือพาราลิมปิกก็ไม่มีใครเหนือกว่า ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพสามารถแข่งขันกีฬา มีน้ำใจนักกีฬาที่รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัยได้เหมือนกัน

 

 

ภาพที่ 3 พิธีเปิดพาราลิมปิกเกมส์ ณ กรุงโรม ปีค.ศ. 1960

แหล่งที่มาภาพ: International Paralympic Committee (n.d.). ROME 1960 PARALYMPIC GAMES. [online]. Accessed 2024 Aug 30. Available from:

https://www.paralympic.org/sites/default/files/styles/image_crop_16_9_800_450/public/images/120319105423359_1960%2BRome%2BINAIL%2B4.JPG?itok=MQeqYqSj

 

               พาราลิมปิกเกมส์ จัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปีค.ศ. 1960 กรุงโรม ประเทศอิตาลี มีผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 400 คนจาก 23 ประเทศ และชนิดกีฬา 8 รายการ ในปีนั้น สหพันธ์ทหารผ่านศึกโลก (the Word Federation of ex-servicemen) ตั้งคณะทำงานจัดการกีฬาคนพิการสากลมาศึกษาปัญหาการเล่นกีฬาของผู้พิการ และทำให้เกิดการจัดตั้งองค์การกีฬาคนพิการสากล (International Sports Organization for the Disabled: ISOD) เพื่อมอบโอกาสให้กับนักกีฬาประเภทอื่นๆ นอกเหนือไปจากนักกีฬาวีลแชร์ โดยมีการเพิ่มประเภทความพิการของนักกีฬา ได้แก่ นักกีฬาที่ตาบอด พิการภายหลัง (ถูกตัดอวัยวะออกเพราะอุบัติเหตุ หรือโรคร้าย) ภาวะสมองพิการ และอัมพาตครึ่งท่อน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการจัดตั้งองค์กรหรือสมาคมขึ้นเพื่อดูแลและส่งเสริมนักกีฬาแต่ละกลุ่ม ส่งผลให้วงการกีฬาพาราลิมปิกเติบโตยิ่งขึ้น

 

คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล: องค์กรที่ขับเคลื่อนการแข่งขันและตระหนักถึงคุณค่าของผู้พิการ

               ปัจจุบันพาราลิมปิกอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee: IPC) ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1989 ณ เมืองดุสเซลดอร์ฟ (Düsseldorf) ประเทศเยอรมนี และมีชนิดกีฬาที่บรรจุไว้ 22 รายการ ได้แก่ ยิงธนู กรีฑา บอคเซีย (Boccia) พาราแคนู  จักรยาน โกลบอล ฟุตบอล 5 คน ยูโด ไตรกีฬาคนพิการ ยกน้ำหนัก วีลแชร์ฟันดาบ เรือพาย วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส ยิงปืน วีลแชร์บาสเกตบอล ขี่ม้า วีลแชร์รักบี้ วีลแชร์เทนนิส เทควันโด และแบดมินตัน

 

ภาพที่ 4 วีลแชร์บาสเก็ตบอลในพาราลิมปิกเกมส์ ณ ลอนดอน ปีค.ศ. 2012

แหล่งที่มาภาพ: The History Press (2016). Dr. Guttmann and the Paralympic movement. [online]. Accessed 2024 Aug 30. Available from:

https://thehistorypress.co.uk/wp-content/uploads/2024/05/640px-can_v_esp_basketball_2012_paralympics.jpg

 

               ในทัศนะของผู้เขียนเห็นว่าวิวัฒนาการของพาราลิมปิกไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องกีฬาแต่ยังแฝงข้อคิดในการใช้ชีวิตด้วย แม้ว่านักกีฬาผู้พิการมีข้อจำกัดจากความบกพร่องทางร่างกาย ทว่ามนุษย์มีความ สามารถและศักยภาพที่น่าเหลือเชื่อในการฝึกฝนจนก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านั้น และกลายเป็นตัวแทนนักกีฬาของประเทศได้ในที่สุด

               ขณะที่การให้คุณค่าและสร้างความมั่นใจให้กับผู้พิการ อีกทั้งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาอย่างที่ดร. กุตต์แมนน์ เล็งเห็นก็นับเป็นกระดุมเม็ดแรกที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับองค์กร สมาคม หรือคณะกรรมการที่เข้ามาช่วยผลักดันความเป็นเลิศทางกีฬา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงผลักดันให้เกิดจุดเปลี่ยนและสร้างประวัติศาสตร์ต่อวงการกีฬา ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนชีวิตให้ผู้พิการกลับมาเข้มแข็ง ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Britannica. (2024, Aug 30). Paralympic Games. Retrieved August 29, 2024, from https://www.britannica.com/sports/Paralympic-Games

Britannica. (2024, Aug 27). Ludwig Guttmann. Retrieved August 30, 2024, from https://www.britannica.com/biography/Ludwig-Guttmann

Frick E. (2021, Aug 25). The Jewish doctor who escaped the Nazis and founded the Paralympics. The Times of Israel. Retrieved August 29, 2024, from https://www.timesofisrael.com/the-jewish-doctor-who-escaped-the-nazis-and-founded-the-paralympics/

International Paralympic Committee. (n.d.). PARALYMPICS HISTORY. Retrieved August 30, 2024, from https://www.paralympic.org/ipc/history

International Paralympic Committee (n.d.). ROME 1960 PARALYMPIC GAMES Retrieved August 30, 2024, from https://www.paralympic.org/rome-1960

The History Press (2016, Sep 7). Dr. Guttmann and the Paralympic movement. Retrieved August 29, 2024, from https://thehistorypress.co.uk/article/dr-guttmann-and-the-paralympic-movement/

แกลเลอรี่


ย้อนกลับ