การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
การเผาพริกเผาเกลือเป็นการสาปแช่ง ตามความเชื่อของคนโบราณที่ว่า พริกมันมีความเผ็ดร้อน เกลือก็เค็ม คนที่เผาทั้งพริกทั้งเกลือพร้อมๆ กับคำด่าคำสาปแช่งก็เพื่อให้คำด่าคำสาปแช่งนั้นเกิดความศักดิ์สิทธิ์ มีความเผ็ดร้อนและเค็มไปเผาผลาญคนที่ไม่ชอบ คนที่ไม่ดี เพื่อจะได้รับความทุกข์ทรมาน
ที่มาของพิธีสาปแช่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากชาวฮินดูโบราณปรากฏในหนังสือ “พิชัยสงครามฮินดูโบราณ” มีคำกล่าวว่า ผู้ที่มีความโกรธแค้นต่อผู้ใด ให้หยิบเกลือมาหยิบมือหนึ่ง ถ้าเป็นเวลาเช้าหันหน้าไปยังบูรพาทิศ กล่าวคำสาบานแช่งด่าผู้ที่ตนโกรธแค้นนั้นพอแรงแล้ว จึงรดน้ำลงที่เกลือ หมายว่าจะให้ผู้ที่เป็นศัตรูนั้นฉิบหายละลายไปดุจดังเกลือละลายน้ำ
ถ้าเป็นเวลาเย็น ต้องหันหน้าไปยังประจิมทิศสาบานแช่งด่าผู้ที่โกรธนั้นเสียให้มากๆ จนพอแก่ความแค้นแล้ว จึงเอาเกลือหยิบมือหนึ่งนั้นสาดเข้าในกองไฟ หวังให้ผู้เป็นศัตรูที่โกรธแค้นกันนั้น แตกประทุกระจายดุจดังเกลือประทุแตกระเบิดป่นไปด้วยไฟ (ที่มา : ทศพรรษ พชร เพจร้อยคำหอม)
ฮินดูว่าเผ็ดร้อนแล้ว ชาวสยามเพิ่มความร้อนแรงลงไปด้วยพริก มุ่งหมายให้แสบร้อนทุรนทุรายดั่งพริกโดนไฟ จึงเป็นที่มาของความเชื่อโบราณที่ว่า “เผาพริกเผาเกลือ” แต่ผลจะเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ได้ เพราะเป็นความเชื่อและทำกันมาแต่โบราณ แต่การสาปแช่งใครก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำตามหลักพระพุทธศาสนาแล้วถือว่าเป็นบาป นั่นเอง
#MuseumSiam
#ให้ทุกการเรียนรู้สนุกกว่าที่คิด