ภาพปกโดย น.ส.ชาคริยา รุ่งรัตนกุล นักศึกษาฝึกงานปี 2567
ย้อนกลับมากล่าวถึงพื้นที่มิวเซียมสยามอีกครั้ง ตั้งแต่สมัยอยุธยามีการใช้พื้นที่กันมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ปรับเปลี่ยนลักษณะการใช้งานไป พื้นที่ใกล้เคียงอย่างท่าเตียนและปากคลองตลาดก็เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย โรงหนัง โรงละคร ตลาดค้าขาย ส่วนพื้นที่มิวเซียมสยามจากเดิมเป็นป้อม วังท้ายวัดพระเชตุพนฯ กระทรวงพาณิชย์ แล้วมาเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างที่เคยเล่ามาแล้ว บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจสำหรับ Ghost Story เล่าเรื่องผีในมิวเซียมสยาม สัปดาห์นี้มี 2 เรื่อง
เรื่องแรก นักดนตรีสาว
ปีแรกที่มิวเซียมสยามเปิดให้บริการ ได้จัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทง ผู้จัดกิจกรรมของมิวเซียมได้เชิญโรงเรียนรอบรั้วมิวเซียมสยามมาร่วมจัดกิจกรรมด้วยกัน โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งส่งวงดนตรีไทยของโรงเรียนเข้ามาร่วมกิจกรรม อาจารย์ผู้ดูแลวงดนตรีไทยขอพื้นที่ในการแสดงเป็นโถงต้อนรับ การบรรเลงจบลงในเวลาเกือบหกโมงเย็น ในขณะที่เก็บเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ อาจารย์ที่ดูแลวงดนตรีของโรงเรียนถามผู้จัดกิจกรรมของมิวเซียมว่า "เดี่ยวซอจะเริ่มกี่โมงครับ ผมจะรอฟัง" เจ้าหน้าที่ฯ ตอบว่า "ไม่มีนะคะอาจารย์ การแสดงมีแค่วงของอาจารย์ค่ะ" อาจารย์ตอบด้วยท่าทีที่แปลกใจ "ผมคิดว่ามีการแสดงต่อ เห็นมีผู้หญิงถือซอมานั่งรอตรงมุมทางเข้าใต้บันได" ทีมงานก็ช่วยกันตามหาผู้หญิงถือซอแต่ก็ไม่พบ และไม่มีใครพูดอะไรกัน ต่างเก็บของแล้วแยกย้ายกลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นทีมงานผู้จัดกิจกรรมเข้าไปที่โรงเรียนเพื่อขอบคุณอาจารย์และถามถึงผู้หญิงถือซอ อาจารย์เล่าให้ฟังเห็นผู้หญิงผมสั้นใส่ชุดแบบปิดอกถือซอนั่งกับพื้นเหมือนรอคิวที่จะแสดงต่อ พอดีเป็นช่วงที่วงของโรงเรียนกำลังบรรเลงอาจารย์เลยไม่ได้สนใจ ทีมงานได้ตามหาเธอผู้นั้นจากภาพถ่ายในวันงาน แต่ก็ไม่พบภาพผู้หญิงถือซอสักภาพ
เรื่องที่สอง เสียงปริศนา
ช่วงการติดตั้งนิทรรศการชั่วคราว เรื่อง "ปรากฏการณ์อินเทรนด์ไม่เว้นวรรค" จะใช้เป็นเวลาที่มิวเซียมสยามปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงเช้าเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนผู้เข้าชม การเข้าทำงานเวลากลางคืนในพื้นที่นี้ พวกเราชาวมิวเซียมสยามคิดอยู่เสมอว่าจะมีผู้ใดพบกับเหตุการณ์แปลกๆ บ้างมั้ย จนคืนที่ติดตั้งนิทรรศการฯ คืนสุดท้าย หนึ่งในทีมงานของบริษัทเล่าให้พวกเราฟังว่าเวลาประมาณตีสามถึงตีสี่ได้ยินเสียงดนตรีไทย น่าจะเป็นเสียงระนาดบรรเลง ยังคิดเลยว่าเด็กโรงเรียนใกล้มิวเซียมสยามขยันตื่นมาซ้อมดนตรีกันแต่เช้ามืดฟังเพลินดี ลมพัดเย็นๆ ได้กลิ่นหอมของดอกไม้มีความสุขมาก ยังแอบเสียดายเพราะวันนี้เป็นสุดท้ายที่ได้เข้ามาทำงาน พวกเราได้ฟังแล้วก็รับรู้ได้เลยว่ามันไม่ใช่เหตุการณ์ปรกติ เพราะโรงเรียนที่พูดถึงไม่ใช่โรงเรียนประจำที่นักเรียนมาพักค้างและซ้อมดนตรีกันเป็นแน่ ส่วนกลิ่นหอมของดอกไม้ที่คิดว่ามาจากตลาดดอกไม้ที่ปากคลองก็ไม่น่าเป็นได้เพราะตลาดดอกไม้อยู่ห่างไปพอควร
จากเหตุการณ์แปลกนี้ เรานึกถึงกิจกรรมที่อาจเคยเกิดขึ้นเป็นประจำในวัง “ท่าน” อาจเป็นนักดนตรีของวังใดวังหนึ่งก็เป็นได้ จากข้อมูลเอกสารจดหมายเหตุมีการกล่าวถึงว่า ดนตรีไทยเป็นที่นิยมมากในวังเจ้านาย
มีหลายวังที่มีวงดนตรีไทยประจำวัง เช่น วังบูรพา วังบางขุนพรหม และวังท่าเตียนในกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม ผู้ทรงนิพนธ์เพลงลาวดำเนินเกวียน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเพลงลาวดวงเดือน ส่วนกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ทีมงานของบริษัทได้กลิ่นน่าจะเป็นเครื่องแขวนดอกไม้ ทำจากดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอม ใช้ประดับแขวนตกแต่งและสร้างกลิ่นหอมให้เกิดไปทั่วทั้งวัง สองเหตุการณ์ยังคงเป็นเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้และยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ในเวลานี้