ล่าสุดปี 2014 มาสคอต สุดน่ารักที่บราซิลประเทศเจ้าภาพเลือกใช้ตัวนิ่มเป็น มาสคอต มีชื่อว่า ฟูเลโก้ (Fuleco) สำหรับคำว่า Fuleco นั้นเป็นศัพท์ในภาษาโปรตุเกสที่มีความหมายว่า futebol (football = ฟุตบอล) และ ecologia (ecology = ระบบนิเวศน์) โดยทางฟีฟ่าเชื่อว่าการใช้สองคำที่นำมาผสมกันนี้ก็เพื่อที่จะให้แฟนบอล ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน

ปี 2010 ประเทศแอฟริกาใต้ ใช้เสือดาวเป็น มาสคอต ที่ชื่อว่า ซาคูมิ (Zakumi) เป็นเสือดาวน่ารักสีเหลืองสัตว์นำโชคของประเทศที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ในฐานะตัวแทนการแข่งขัน และคำว่า ซาคูมิ มีความหมายในภาษาท้องถิ่นว่า ยินดีต้อนรับ แต่เมื่อแยกคำออกมาจะได้คำว่า ซา(ZA) หมายถึงรหัสประเทศแอฟริกาใต้ คูมิ (Kumi) คือเลข 10 ในภาษาถิ่นของหลายชนเผ่าในประเทศ ซึ่งมีนัยถึงฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ 2010 อีกด้วย

ปี 2006 เยอรมัน ใช้ โกเลโอ เดอะ ซิกซ์ (Goleo VI) เป็นมาสคอตนำโชคการแข่งขัน มาสคอต ครั้งนี้ ออกแบบได้อย่างเรียบง่าย เป็นตัวสิงโตชื่อว่า โกเลโอ สวมเสื้อทีมชาติเยอรมันหมายเลข 06 และมาพร้อมกับลูกบอลพูดได้ชื่อว่า ปิลเล่ (* ปิลเล่ เป็นคำแสลงที่แปลว่า ฟุตบอล) ขณะที่ชื่อ โกเลโอ คือคำผสมระหว่าง โกล (Goal) กับ เลโอ (Leo) หรือ สิงโตในภาษาละติน

อีก 4 ปี ถัดมาคราวนี้ฟีฟ่าเลือก เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพแะลนับเป็นครั้งแรกที่ศึกฟุตบอลโลกมาจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย ฟุตบอลโลก ปี 2002 ใช้ มาสคอส ถึง 3 ตัวคือ อาโต้, คาซ, นิค (Ato, Kaz, Nik) ผู้จัดได้ออกแบบให้เป็นสมาชิกในทีม แอ็ตโม่บอล หรือเกมฟุตบอลในอนาคต สมาชิกทั้ง 3 ตัวมีชื่อว่า อาโต้ (สีส้ม) คาซ (ม่วง) และ นิค (น้ำเงิน) โดย อาโต้ เป็นโค้ช อีก 2 ตัวที่เหลือเป็นผู้เล่น ส่วนชื่อนั้นก็ได้จากการโหวตทางอินเตอร์เน็ท และจากผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ทในร้านแม็คโดนัลด์ เป็นตัวตัดสินเลือกชื่อทั้ง 3 ตัว

ข้ามมาปี 1998 มาสคอต ตัวที่ 9 ประเทศ ฝรั่งเศส เป็นไก่ชื่อว่า ฟุตติกซ์ (footix) ที่ใช้สีน้ำเงินทั้งตัว บนหน้าอกพิมพ์ตัวอักษรว่า “FRANCE 98” ส่วนชื่อ ฟุตติกซ์ (footix) เป็นคำผสมระหว่าง ฟุตบอล กับ ix * ซึ่ง ix นั้นมาจาก แอสเตริกซ์ (Asterix) ตัวการ์ตูนชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง

ปี 1994 มาสคอต ตัวที่ 8 ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสุนัขชื่อว่า สไตเกอร์ ที่สวมเสื้อสี แดง-น้ำเงิน-ขาว ที่เป็นสีของธงชาติสหรััฐ สกรีนคำว่า USA 94 ไว้ที่กลางหน้าอก และยังถูกยกให้เป็น มาสคอต ที่สวยที่สุดนับตั้งแต่มี มาสคอต ในฟุตบอลโลก

อีก 4 ปีต่อมากับ มาสคอต ตัวที่ 7 ที่ประเทศอิตาลี ปี 1990 ที่มีชื่อว่า เชา ที่ออกแบบเป็นหุ่นที่ศรีษะเป็นลูกบอล และมีตัวเป็น สีแดง-ขาว-เขียว สีธงชาติของประเทษอิตาลี ส่วนคำว่า เชา นั้นก็แปลว่า สวัสดี นั้นเอง ซึ่งสื่อจากทั่วโลกต่าบอกว่า เชา เป็น มาสคอต ที่แย่ที่สุดอีกด้วย

มาสคอตตัวที่ 6 ปิเก้ ณ ประเทษ เม็กซิโก ใช้ในศึกฟุตบอลโลก 1986 ครั้งนี้ เม็กซิโก ได้เป็นเจ้าภาพ 2 ครั้งในระยะเวลา 16 เพราะ โคลอมเบีย ไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพเลยขอถอนตัวโดยด่วน โดยคราวนี้ มาสคอต เป็น พริกหยวก ฆาลาเปนโญ่ (jalanpeno) ที่มีหน้าตาดุดันมีหนวด สวมหมวกซอมเบรโร่ ทีมีชื่อเล่นน่ารักๆ ว่า ปิกันเต้ (picante) ที่แปลว่าเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน

หลังจากในเด็กมาตลอด 3 ครั้งติด เจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 1982 ประเทศสเปนของแหวกแนวเปลี่ยนเป็นผลไม้อย่าง ส้ม เป็นมาสคอสในชื่อ นารานฆิโต้ เป็นส้มวาเลนเซีย ที่ถือลูกฟุตบอลและสวมเสื้อ ‘ฟูเรีย โรฆา’ หรือชุดแดงเพลิงของทีมชาติสเปน

มาสคอต ตัวที่ 4 เกาชิโต้ มาสคอต ประจำศึกฟุตบอลโลกที่ อาร์เจนติน่า ในปี 1978 เป็นเด็กผู้ชายมีการประดับผ้าพันคอ และแส้ อันสื่อความหมายถึง ‘โคบาล’ คนขี่ม้าเลี้ยงวัวตามทุ่งหญ้าในอเมริกาใต้ ซึ่งคำว่า เกาชิโต้ ก็แปลว่า เจ้าหนูโคบาล นั่นเอง

มาสคอต ตัวที่ 3 ที่ประเทศเยอรมัน ตะวันตก ในปี 1974 มาสคอต ตัวนี้พิเศษหน่อยเพราะเป็นครั้งแรกที่ใช้ มาสคอต 2 ตัว คือ ทิป กับ แทป เด็กน้อยชาวเยรอมันสองคนด้วยใบหน้าแห่งความสุข

อีก 4 ปีต่อมาศึกฟุตบอลโลก ปี 1970 ที่ประเทศ เม็กซิโก้ ใช้ “ฆวนนิโต้” เด็กน้อยใส่หมวก Sombrero หมวกปีกกว้างที่เหมือนเป็นสัญญาลักษณ์ของประเทศ

โดย มาสคอต ตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาในศึกฟุตบอลโลกคือ “วิลลี่” ที่เริ่มใช้ในฟุตบอลโลก 1966 ที่ประเทศอังกฤษ วิลลี่ เป็น มาสคอต ประจำการแข่งขันที่เป็นสิงโต สวมเสื้อลายธงยูเนี่ยนแจ็ค

ที่มา: http://sport.mthai.com/worldcup/news/196.html