สองปีก่อนหน้า วิถีไล่ล่าความสำเร็จอาจเป็นเป้าหมายยั่วน้ำลายของใครหลายคน เวลาพัก ความสนุกคือการขลุกอยู่กับเพื่อนที่ออฟฟิศ แฮงก์เอาท์ในคาเฟ่หรือร้านบุฟเฟต์ แสวงหาการหย่อนใจอยู่ริมทะเลหรือบนภูเขา หรือแม้แต่การเข้าฟิตเนสก็กลายเป็นแหล่งเติมความสุขประจำวัน “บ้าน” จึงแทบไม่ต่างอะไรจากพื้นที่งีบพักและหลบภัยชั่วคราว
กระทั่งวิกฤตโควิดมาเยือน ความสุข การงาน และเวลาพักผ่อนจึงถูกพร่าเลือนไปกับมิติของบ้าน ความหมายของบ้านถูกสำรวจใหม่อีกครั้งพร้อมๆ กับการตั้งคำถามถึงบทถัดไปของชีวิต
ระหว่างที่บางคนค้นพบความสุขจากการอยู่บ้าน อีกหลายคนหมดพลัง แห้งเหี่ยวอยู่บ้านด้วยความไม่คุ้นเคย Muse Idol จึงชวนเปิดมุมมองที่หลากหลายของคำว่า “บ้าน” กับ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ นักแสดง พิธีกรรายการบ้านและสวน, รายการ SPECSPACE ที่คลุกคลีตีโมงกับเรื่องบ้านๆ เริ่มต้นจากความ “ชอบ” และ “ทดลองทำ” รู้ตัวอีกที การเรียนรู้และประสบการณ์ก็ค่อยๆ ขัดเกลาวิธีคิดของเขาให้เติบโตไปพร้อมเรื่องราวของบ้าน
ของเล่นเด็กชายเป๊กคือของแต่งบ้าน
“เด็กคนอื่นอาจชอบไปเดินห้าง แต่เด็กอย่างเราชอบไปโฮมโปร” เป๊กโปรยบทสนทนาเมื่อถูกถามถึงต้นตอความชอบในการแต่งบ้าน ผู้ส่งอิทธิพลที่ฝังรากลึกให้เขาหลงใหลสไตล์เรโทรมาจนทุกวันนี้ก็คือพ่อ
“พ่อชอบฟังเพลงเก่า The Beatles, Eagles ยุค 60 70 ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ เปิดกรอกหูเราทุกวัน กลายเป็นคนชอบฟังเพลงแนวนี้ ความสุขตอนเด็กๆ คือตามล่าหาเทปเก่าที่สะพานพุทธมาฟัง นอกจากไข่ปลาหมึกจะอร่อย สะพานพุทธยังขึ้นชื่อเรื่องของเก่า สินค้ามือสองดีไซน์สวย ราคาไม่แพง เราเรียนสวนกุหลาบ ตกเย็นวันพุธไปเดินดูของ ได้ไอเดียแปลกใหม่กลับบ้านตลอด
“ตอนมีห้องนอนของตัวเองครั้งแรก เราอยากได้โต๊ะหัวเตียงไว้วางซาวด์อะเบาท์แต่ไม่มี เราก็เริ่มต่อโต๊ะเอง นั่นคือครั้งแรกที่เราได้ลอง DIY จากนั้นก็ตบตีกับพ่อแม่เพราะอยากได้ห้องใหญ่ขึ้น จะได้แต่งห้องมากขึ้น เราชอบสีเทอร์ควอยซ์ก็ชวนเพื่อนมาช่วยทาสีที่ห้อง ด้านหนึ่งติดโปสเตอร์ยุค 90 ที่เดินหามาจากจตุจักร ซื้อผ้าดิบที่พาหุรัดมาทำม่าน หาเชือกสลิงมาขึงเอง จำได้ว่าสนุกสุดๆ ทำโต๊ะปูนเปลือยเอง เปลี่ยนแผ่นเสียงเป็นโคมไฟ ตัดฟิวเจอร์บอร์ดใสแล้วเอากระดาษสีฟ้าวางข้างใน พอใส่หลอดไฟก็เป็นแสงสีฟ้ารางๆ พอมีคนชมว่าห้องสวย เราก็แอบดีใจ แต่พ่อแม่ไม่อิน
“นิตยสารที่ชอบซื้ออ่านคือ Room กับบ้านและสวน พอได้ไปญี่ปุ่นก็ซื้อหนังสือแต่งบ้านกลับไทยเยอะมาก เพื่อนไม่เข้าใจว่าไปญี่ปุ่นจะซื้อหนังสือกลับมาทำไม ตอนนั้นเราว่าบ้านญี่ปุ่นมันเท่ แต่งบ้านกันแปลกๆ แต่สวย ฟังก์ชันก็ครบ ส่วนหนึ่งเราก็ซึมซับมาจากตรงนั้น”
เปลี่ยนคอนโดเป็นผับใต้ดิน
“มีครั้งหนึ่งเราไปเมืองลิเวอร์พูล เป็นทริปตามล่าหา Cavern Club ผับใต้ดินที่เป็นจุดเริ่มตำนานวง The Beatles ตอนเข้าไปมันใช่เลย มีความสุขมาก เราเก็บโบรชัวร์ โปสเตอร์ ซื้อของกลับมาไว้แต่งห้อง พอมีคอนโดปั๊บ เราทุบเกลี้ยง ตั้งใจว่าต้องทำห้องให้ได้อารมณ์เดียวกับ Cavern Club เพราะเราอยากอยู่ในที่แบบนั้น ผนังเป็นอิฐโค้งเหมือนถ้ำ เป็นแนว ‘Just Do อิฐ’ สไตล์ดิบๆ ช่วงนั้นคุณโทนี่ รากแก่น มาช่วยทำสนุกมาก ชอบตอนคนเปิดเข้ามาแล้วตกใจว่าในคอนโดมีห้องแบบนี้ด้วยเหรอ
“พอมีคนมาเห็นบ่อยๆ ก็เริ่มมีหนังสือ Home and Decore มาถ่ายลงปก ตอนนิตยสาร Room มาถ่าย คุยไปคุยมาทีมงานเห็นว่าเราชอบแต่งบ้าน มีแพสชั่นกับเรื่องพวกนี้ เลยชวนไปเป็นพิธีกรบ้านและสวน เพราะเขากำลังเปลี่ยนสไตล์พิธีกรจากสถาปนิกมาเป็นคนปกติที่ชอบแต่งบ้าน จะได้เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น จากวันนั้นก็ทำมา 4-5 ปีแล้วครับ”
อพยพออกนอกเมือง เทรนด์ที่อยู่ใหม่ลี้ภัยโควิด
“การย้ายออกนอกเมืองคือเทรนด์ใหม่ ต่างจากเมื่อก่อนที่คนเลือกซื้อคอนโดในตัวเมืองเดินทางสะดวก แต่หลังติดอยู่บ้านมานานนับปี ทุกวันนี้คนรู้แล้วว่าความสุขตอนอยู่บ้านเป็นยังไงและอะไรคือสิ่งสำคัญ คนให้ความสำคัญกับบ้านและพื้นที่สีเขียวรอบบ้านมากขึ้น บ้านชานเมืองราคาไม่แพงกำลังได้รับความนิยมเพราะได้พื้นที่ใหญ่ขึ้น คนชอบแต่งบ้านกันมากขึ้น บางคนเล่นไม้ด่าง ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และต้นไม้ก็บูมสุดๆ ตอนนี้เพื่อนหลายคนซื้อบ้านต่างจังหวัดอยู่กับคนท้องถิ่น อย่างโคกหนองนาโมเดล เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ปลูกผักกินเองก็มาแรง บางคนซื้อบ้านตามที่พักตากอากาศแล้วพาครอบครัวไปอยู่แถวพัทยา หัวหิน เขาใหญ่ กลับมาเซ็นเอกสารเดือนละครั้ง พวกนี้สุดท้ายกลายเป็นทรัพย์สินได้เพราะราคาไม่แรง เทรนด์ใหม่คือการย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดจริงๆ
“เราว่าตอนนี้คนจะเลือกบ้านสุดท้ายของชีวิต บ้านที่เราจะได้อยู่ยาวๆ กับครอบครัว อยู่แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว พอเราอยู่บ้านนานๆ จะทำให้เข้าใจว่าบ้านสำคัญกับชีวิตเราแค่ไหน อย่างเราเองก็กำลังจะทำบ้าน แต่ปัญหาคือไม่รู้จะทำแนวไหน เพราะเราเห็นมาเยอะมาก จะเป็นแนวมูจิหรือจะเป็นแนวอิฐแบบที่เราชอบดี กลายเป็นว่าบางคนไม่รู้จะแต่งบ้านแบบไหนเพราะไม่มีข้อมูล ส่วนเรามีข้อมูลเยอะเกินไปจนเลือกไม่ถูกสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้อยากมีบ้านใหญ่มาก แค่ให้มีฟังก์ชันและพื้นที่ที่ตรงกับความชอบของเราก็พอ”
บ้านที่ใช่กับฟังก์ชันที่ชอบ
“เคยอยู่บ้านหลังใหญ่แล้วเหงาไหม ตะโกนเรียกใครก็ไม่ได้ยิน บางห้องเหมือนสร้างไว้ประกอบฉากไม่เคยได้ใช้ เพราะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้าน ดังนั้นบ้านที่ใช่ไม่จำเป็นต้องใหญ่เสมอไป บ้านสมัยใหม่ที่มีฟังก์ชันตอบความต้องการได้ต่างหากที่น่าสนใจ มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ดูหนังฟังเพลง มีครัวฝรั่งเชื่อมโยงกับครัวไทย อาจเป็นแค่สเปซเดียวที่ทุกคนอยู่แล้วสุข อย่างแต่ก่อนห้องทำงานพ่อเราจะแยกจริงจังเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่เป๊กชอบฟีลลิ่งเหมือนโกดังมากกว่า สเปซเปิดโล่งเอาไว้ใช้เวลาร่วมกัน เคลื่อนย้ายและจัดสเปซได้ไม่มีเบื่อ จะย้ายไปเล่นดนตรีตรงไหนก็ได้ วันดีคืนดีเอาโปรเจ็กเตอร์มาฉายลงบนผนังขาวดูหนังจอใหญ่ได้ จัดอีกมุมเป็นสตูดิโอถ่ายรูปขายของ เราว่าพื้นที่ที่มีฟังก์ชันหลายอย่างสนุกกว่าห้องที่จำกัดการใช้งานตายตัว
“อย่างรถบ้าน พื้นที่นิดเดียวแต่ฟังก์ชันครบที่สุด ห้องรับแขกเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอนได้ ครัวกะทัดรัดแต่มีครบทุกอย่าง เราชอบบ้านหลังหนึ่งเรียกว่าบ้านเส้นก๋วยเตี๋ยว หน้ากว้าง 6 เมตร ลึก 22 เมตร ดูเหมือนเล็กแต่ฟังก์ชันพร้อมตามต้องการ มีสระว่ายน้ำในสวน มีพื้นที่ต้อนรับและห้องพักแขก ห้องสมุดอยู่ตรงบันไดวน ขึ้นไปด้านบนเป็นห้องทำงาน ห้องนอนเล็กนิดเดียวแค่เอาไว้นอน เห็นไหมว่าเจ้าของบ้านรู้ดีที่สุดว่าเขาต้องการอะไรบ้าง สมมติบางคนชอบแผ่นเสียงก็อาจมีห้องฟังแผ่นเสียงบรรยากาศดีๆ ชอบดูหนังก็มีโฮมเธียเตอร์ แต่ต้องเป็นฟังก์ชันที่ชอบแล้วใช่จริงๆ นะ ไม่ได้ตามกระแสเพราะเดี๋ยวก็เบื่อ ที่สำคัญถ้าเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มันต้องใช่สำหรับคนอื่นที่อยู่ในบ้านด้วย”
SPECSPACE อยู่ที่ใช่ ไปที่ชอบ
“ถ้าเจ้าของบ้านรู้ความต้องการชัดเจน มีสไตล์เป็นของตัวเอง การแต่งบ้านเป็นเรื่องไม่ยาก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ บางคนมีบ้านแล้ว อยากปรับปรุงบ้านใหม่ แต่ไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรหรือชอบแบบไหน มันเลยเป็นที่มาของรายการ ‘SPECSPACE อยู่ที่ใช่ ไปที่ชอบ’ เราอยากให้คนได้รู้ว่าจริงๆ ไม่จำเป็นต้องออกไปหาความบันเทิงหรือความสุขนอกบ้านตลอดเวลาก็ได้ อย่างเราแต่ก่อนต้องออกไปดูหนัง ต้องไปเที่ยวตลอด แต่ในเมื่อวันนี้มันทำไม่ได้ การได้อยู่บ้านแล้วมีมุมที่ชอบที่ใช่ของเราจริงๆ มันคือคำตอบ
“ ‘อยู่ที่ใช่’ คือการเลือกแบบเจาะจง เลือกอยู่ในที่ที่เป็นตัวเราเอง มุมเดียวก็ได้ แต่มุมนั้นคือเรา
“ ‘ไปที่ชอบ’ เราชอบที่ไหนก็ไปที่นั่น เราชอบไปดูโฮสเทล โรงแรม บ้านเพื่อน เรารู้สึกว่าไปที่ที่เราชอบมันดีนะ เลยกลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่อยากให้คนดูเปิดประสบการณ์ไปพร้อมกัน เราอยากรู้อะไร ชอบแบบไหนก็นำเสนอออกไป เช่น ตอนบ้านโนบิตะ มีช่วงหนึ่งเราอยากรู้ว่าบ้านคนญี่ปุ่นเล็กนิดเดียวอยู่กันได้ยังไง โนบิตะใช้ชีวิตอยู่ห้องนอนข้างบน ข้างล่างเป็นห้องรับแขกที่ปรับเป็นห้องนอนแขกได้ พอหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เราพบว่าในการ์ตูนญี่ปุ่นมีฟังก์ชันการออกแบบบ้านซ่อนอยู่ ก็เลยทำเทปนั้นขึ้นมา แต่ก็เอาประสบการณ์ของเราเองบวกเข้ากับสิ่งที่เรานำเสนอด้วย
“เราทำช่อง PeckaNew Channel ในยูทูบ ก่อนหน้ามีรายการท่องเที่ยว ‘Journey ที่รัก’ เพราะเรากับนิวชอบเดินทางเหมือนกัน แต่พอเราทำรายการบ้านและสวนไปเรื่อยๆ ก็กลับมาคิดว่าอะไรที่เราชอบจริงๆ กันแน่ ความชอบเกิดจากสองอย่าง หนึ่งเราชอบเองกับสองคนอื่นมองเข้ามาแล้วเห็นว่าเราชอบ เราถนัด เลยมาขอคำแนะนำ ซึ่งเรื่องที่แทบทุกคนถามจะเกี่ยวกับการแต่งบ้าน ปกติเราก็ให้คำแนะนำจากประสบการณ์ของเรา อย่างพี่ป๋อง-กพล ทองพลับ พี่ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร เราก็ช่วยดูเรื่องแต่งบ้านอยู่ เลยมาคิดว่าถ้าได้ทำรายการแต่งบ้านในแบบที่เราชอบจริงๆ และเป็นตัวเราเองจะออกมาเป็นยังไง น่าสนุกดี เลยลองทำกันเลย”
บ้านที่โตไปด้วยกัน
“เราว่าบ้านสำคัญที่แสง เงา และลม มีบ้านหลังหนึ่งที่เราชอบมาก เป็นบ้านที่โตไปพร้อมกับคนที่อยู่ในบ้าน พี่อาร์ต-อยุทธ์ มหาโสม แห่ง Ayutt and Associates design (AAd) เป็นคนออกแบบ ตัวบ้านสีขาวมีฟาซาด (Façade) หรือตะแกรงเหล็กเป็นอุโมงค์อยู่รอบบ้าน นอกจากดีไซน์สวยแล้วลมโฟลว์มาก บ้านสีขาวจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะเจ้าของบ้านปลูกไม้เลื้อยให้ไต่ไปตามตะแกรงรอบบ้าน แล้วในอีก 4-5 ปีบ้านจะกลายเป็นสีเขียว ชั้น 2 มีสระว่ายน้ำยาวๆ ซ่อนตัวอยู่ ใกล้กันมีห้องรับแขกที่ได้แสงเงาทะลุจากฟาซาดสาดลงมาสวยมาก เราเองก็ออกแบบคาเฟ่ที่เชียงใหม่เป็นไม้ไผ่วางซ้อนๆ กันแล้วแสงจะลอดลงมา เห็นที่นี่มีแนวคิดคล้ายกันเลยชอบเป็นพิเศษ แถมบริเวณบ้านมีต้นไม้เยอะ ฟังเสียงน้ำไหลตลอด ฟีลลิ่งเหมือนอยู่เชียงใหม่มาก เขาดีไซน์ห้องพระประตูต่ำๆ เพื่อให้คนก้มต่ำเล็กน้อยตอนเดินเข้าห้องพระ ให้มีสติและแสดงความนอบน้อมกับองค์พระ มันมีความโมเดิร์นทันสมัยใหม่ซ้อนกับความเป็นไทยในบ้านหลังนี้”
ล็อกดาวน์ อย่าล็อกไฟตัวเอง
“ล็อกดาวน์ไม่ได้แปลว่าเราต้องล็อกไฟ ล็อกความคิดตัวเอง บางคนแพนิกไปหมด ห้ามตัวเองทำทุกอย่าง เป๊กว่าอย่าอยู่นิ่งๆ นานเกินไป อย่าติดเตียง ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมี ข้อมูลข่าวสารเราเสิร์ชหาเอาได้ อย่าลืมว่าเราต้องกินต้องใช้ ยังต้องเดินไปข้างหน้า เอาพลังมาคิดดีกว่าว่าเราจะทำยังไงให้มีชีวิตรอดในยุคนี้
“เราอาจเลือกจากความชอบก่อน บางคนปลูกต้นไม้มากขึ้น ทำอาหารมากขึ้น บางคนเรียนออนไลน์เล่นหุ้น อย่างเป๊กเองอยู่บ้านจะเรียนบ่อย พัฒนาตัวเอง เรียนกีตาร์-ร้องเพลง เรียนภาษาอังกฤษผ่านหน้าจอมคอมพ์ เราชอบไปเที่ยว แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนก็เสิร์ชหาข้อมูลเตรียมไปเรื่อย หรือว่างจัดก็แต่งบ้าน ส่วนอีกพาร์ทหนึ่งคือทำงาน ตอนนี้ร้านเรา Brand New Field Good ที่เชียงใหม่ปิด เลยคิดจะต่อยอดด้วยการพาเข้ากรุงเทพฯ หาเช่าตึกทำอาหารส่งเดลิเวอรี่ เพราะเชื่อว่าธุรกิจอาหารยังพอไปได้ นอกจากนี้ก็มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ติดต่อมาให้รีวิวสินค้า เราก็คิดว่าถ้ามีพื้นที่ในออฟฟิศเพื่อการนี้โดยเฉพาะคงดี เอามาลองใช้จริงแล้วรีวิว เพราะส่วนตัวเราชอบของดีไซน์สวย ไม่แพงอยู่แล้ว มีโปรเจ็กต์ในหัวเยอะมากก็ค่อยๆ ทำไป มันต้องรอดสิ สำหรับเราแค่อย่าหยุดคิด อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง
“นอกเหนือจากเรื่องเรียน เรื่องงาน เราค้นพบความสุขของภรรยาว่าจริงๆ เขาเป็นคนชอบอยู่บ้าน นั่งวาดรูป ฟังเพลง ใช้ชีวิตแบบอาร์ติสมาก ทำบ้านใหม่ก็จะทำห้องเพนติ้งให้เขา ปกติกิจกรรมเยอะมาก พากันไปไหนต่อไหนตลอด พอต้องอยู่บ้านด้วยกันก็แอบเห็นมุมเล็กๆ ที่อบอุ่น ช่วยกันทำกับข้าว ทำความสะอาด ได้ดูแลภรรยามากขึ้น ทำกิจกรรมในครอบครัวมากขึ้น สอนภรรยาเล่นเซิร์ฟสเกต ก็เป็นการสานสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนะ”
เริ่มจากความหลงใหล บทถัดไปคือความหลงรัก
“จากที่แค่ชอบแต่งบ้านแบบไม่รู้ตัว ชอบ DIY ไม่ได้มีความรู้อะไรมาก พอมาเป็นพิธีกรรายการบ้านและสวน มันค่อยๆ เพิ่มความรู้ สั่งสมประสบการณ์จนได้ทำธุรกิจจากสิ่งที่รัก ไม่เฉพาะแต่ร้าน Brand New Field Good ที่นอกจากเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ เรายังปรับแกนเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องข้าว เรื่องการปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว ระบบน้ำไหลเวียน เราฝันว่าถ้าหมดโควิดเราจะกลับไปทำตรงนี้ต่อ เรายังได้ทำโปรเจ็กต์ The Wolf House หมู่บ้านไม้สักริมลำธารที่เชียงใหม่ เป็นแนวโมเดิร์นต่างจากร้านอาหารที่ทำอยู่ โปรเจ็กต์เกี่ยวพันกับบ้านเราเยอะมาก มีรายการเกี่ยวกับบ้านของตัวเอง ให้คำปรึกษาคนรอบตัวเกี่ยวกับบ้าน เราเคยคิดอยากทำบริษัทเกี่ยวกับรับสร้างบ้านนะ แต่มันมีรายละเอียดเยอะและใช้เวลานานมาก ถ้าวันหนึ่งมีทีมและเวลาพร้อมก็อยากทำ แต่ตอนนี้ยังชอบทำอะไรหลายๆ อย่างอยู่
“เราเองไม่เคยคิดว่าจากคนที่มีแพสชั่นการแต่งบ้านจะได้มาสร้างบ้านขาย สร้างร้านเป็นแหล่งท่องเที่ยว ยิ่งเราออกไปพบเจอสิ่งต่างๆ ประสบการณ์ที่ได้รับมันก็ย้อนกลับกลายเป็นตัวตนของเรา ยิ่งเรียนรู้และแชร์สิ่งที่เราค้นพบกับคนที่ชอบคล้ายๆ กัน ยิ่งทำให้เราชัดเจน แนวทางและวิธีคิดเราถูกขัดเกลาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเราที่ดีกว่าเดิม”