เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
...ตรุษจีนเมื่อไหร่ เป็นต้องได้ยินเสียงประทัดปุ้งปั้งอยู่ทุกมุมเมือง และภาพที่จำได้ดี ก็คือ เหล่าสิงโตเชิด ที่เต้นรำไปพร้อมกับจังหวะกลองอย่างสนุกสนาน แต่เคยสงสัยกันไหมครับ...ว่าการเชิดสิงโตเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่? และใครเป็นคนนำเข้ามาเผยแพร่กัน?
ย้อนเวลากลับไปในอดีต ชาวจีนเรียกการแสดงเชิดสิงโตว่า ไซ่จื้อบู่
โดยชาวบ้านในมณฑลกวางตุ้ง มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อไล่ผีที่เชื่อว่าลงมากินผู้ชายและสัตว์เลี้ยง จนก่อเกิดเป็นความเชื่อว่า เชิดสิงโตช่วยไล่ภูตผีปีศาจได้ ก็เลยเข้าคู่กันเหมาะมากกับการจุดประทัดวันตรุษจีน ที่ถือเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่
ส่วนการเชิดสิงโตในบ้านเรา ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว แต่เพื่อนๆรู้ไหมครับว่า ผู้ที่นำการเชิดสิงโตเข้ามาไม่ใช่จีน แต่เป็นญวนเป็นผู้นำเข้ามาครับ!
ตามบันทึกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวว่า เมื่อครั้ง "องเชียงสือ" เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ได้คิดฝึกหัดญวนให้เล่นสิงโตอย่างหนึ่งญวนหก (พะบู๊) อย่างหนึ่ง ซึ่งต้นตำราเดิมพวกญวนก็เอามาจากจีนอีกต่อหนึ่ง แล้วนำมาเล่นถวาย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทอดพระเนตร จากนั้น การเชิดสิงโตจึงเริ่มแพร่หลาย ในงานตรุษจีนจนถึงทุกวันนี้
เป็นยังไงบ้างครับ กับสาระที่นายกบแดงนำมาเสิร์ฟในวันมงคลแบบนี้ เพราะฉะนั้นในโอกาสดีๆ ตรุษจีนทั้งที ขอก็ขออวยพรว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ อั่งเปาตั๊วๆไก๊" ถ้วนหน้าทุกคนนะครับ!




